ประจวบคีรีขันธ์-“ปู่บอลด์ 305” หัวรถจักรไอน้ำโบราณหน้าสถานีรถไฟหัวหิน จุดเช็คอินใหม่ของนักท่องเที่ยว
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.67 นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ เปิดเผยว่า จากที่เจ้าหน้าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สารวัตรงานบำรุงทางแขวงวังก์พง นายสถานีรถไฟหัวหิน และผู้รับเหมาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ร่วมสังเกตการณ์การเคลื่อนย้ายหัวรถจักรไอน้ำ Baldwin หมายเลข 305 ดำเนินการโดย Green generation would wide (GGW) Logistics and Trackwork โดยใช้รถเครนและรถบรรทุกขนาดใหญ่ ยกจากบริเวณรางตันด้านทิศเหนือของสถานีรถไฟหัวหินเก่าตรงทางขึ้นสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน ไปยังจุดจอดใหม่หน้าอาคารสถานีรถไฟหัวหินเดิม ใช้เวลาราว 7 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นภารกิจด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ หัวรถจักรไอน้ำ Mikado 2-8-2 1925 Baldwin (United States) 58672 หัวสุดท้ายในเมืองไทย เป็นหัวรถจักรไอน้ำเก่าแก่ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ (เป็นรถไฟสายอเมริกัน ชื่อญี่ปุ่น) หัวรถจักรนี้เคยใช้วิ่งในช่วงสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง คนในวงการรถไฟเคยขนานนามม้าเหล็กรุ่นลายครามนี้ว่า “เจ้าหนุ่ม บอลด์วินน์ หมายเลข 305” เป็นรถไฟมิกาโด สายเลือดอเมริกันหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในเมืองไทย และกลายเป็น “ปู่บอลด์ 305” อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟหัวหินหลังเก่ามานานและกลายเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับป้ายสถานีรถไฟหัวหินที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ต่อมาในเดือนกันยายนปี 62 บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมรถเครนและรถบรรทุก 24 ล้อขนาดใหญ่ มาดำเนินการย้ายหัวรถจักรไอน้ำโบราณ 305 ไปตั้งชั่วคราวที่ริมทางรถไฟทางขึ้นสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน เพื่อรอนำไปตั้งใหม่ยังสถานที่เหมาะสมข้างสถานีรถไฟหัวหินหลังจากเสร็จโครงการสร้างทางรถไฟรางคู่ ส่วนศาลาบุรฉัตร์เก่าแก่ที่ตั้งใกล้หัวรถจักรและอยู่ในพื้นที่โครงการ ทางผู้รับเหมาได้ดำเนินการรื้อออกเรียบร้อย
จนกระทั่งขณะนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และตัวอาคารสถานีรถไฟหัวหินหลังใหม่เสร็จสิ้นเกือบสมบูรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการย้ายหัวรถจักรไอน้ำ Baldwin หมายเลข 305 กลับมาตั้งที่เดิมบริเวณตรงข้ามสถานีรถไฟหัวหินหลังเก่า จากนั้นจะปรับปรุงให้สวยงามดังเดิมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเซลฟี่เก็บเป็นที่ระลึกและเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งของเมืองหัวหินต่อไป