ชลบุรี-สลด 2 แม่ลูกเศรษฐีนี พร้อมใจซดยาพิษออกฤทธิ์คล้ายไซยาไนด์ดับคู่ในบ้านหรู

ชลบุรี-สลด 2 แม่ลูกเศรษฐีนี พร้อมใจซดยาพิษออกฤทธิ์คล้ายไซยาไนด์ดับคู่ในบ้านหรู

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

         เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 ก.ค.67 พ.ต.ท.ญัฐติพงษ์ เจียมพวก สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้ง พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในบ้านหรูเลขที่ 73/52 ซ.พัฒนาการ 2 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.ฯ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.หนองปรือ, ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน , และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปตรวจสอบ
          ที่เกิดเหตุ เป็นลักษณะบ้านพักต่างอากาศหรู มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา บริเวณโรงจอดรถหน้าบ้าน มีรถเบนซ์ สีบรอนซ์-เทา จอดอยู่ 1 คัน ภายในห้องนอน พบศพ นาง รัตนพรรณ จตุรภัทร์ อายุ 68 ปี และ น.ส. ปรางนลิน จตุรภัทร์ อายุ 36 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน อีกทั้งยังเป็นภรรยาและลูกสาวของเจ้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมกระดาษทรายและวัสดุก่อสร้าง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน โดยร่างของผู้เป็นแม่ นอนอยู่ฝั่งด้านซ้าย ส่วนศพลูกสาวนอนอยู่ทางฝั่งด้านขวา โดยทั้งคู่มีผ้าห่มคลุมร่าง สวมใส่ชุดดำ สภาพศพ มีริมฝีปากคล้ำ หน้าเขียว ปลายเล็บดำ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง

          จากการตรวจสอบ ภายในบ้านและภายในห้องนอน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการรื้อค้นทรัพย์สิน พบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เขียนขึ้นโดย นางรัตนาพรรณ ส่วนฉบับที่ 2 เขียนขึ้นโดย นางสาวปรางนลิน วางอยู่ในห้องโถง นอกจากนี้ ใกล้กับศพผู้ตายพบแก้วน้ำ 2 ใบ รวมถึงกระปุกสารยาโซเดียมไนไตรท์ จำนวน 1 กระปุก และถูกใช้ไปแล้วเกือบครึ่งกระปุก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
           ส่วนจดหมายลาตายที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรก ถูกเขียนด้วยลายมือเต็มหน้ากระดาษ เอ 4 จับใจความได้ว่า “ ดิฉันป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และลุกลามไปทั่วร่างกาย ต้องอยู่แบบทุกข์ทรมาน และสงสารลูกที่ต้องคอยมาดูแล และการกระทำในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างลูกสาว โดยไม่ มีใครบังคับขู่เห็น ลงชื่อ นาง รัตนพรรณ จตุรภัทร์“

            ส่วนฉบับที่ 2 ระบุ เขียนข้อความว่า “เมื่อแม่ตัดสินใจว่าจะไป ปรางจึงตัดสินใจว่าจะไปด้วย ปรางไม่สามารถจินตนาการชีวิตที่ไม่มีแม่ได้ และปรางไม่ประสงค์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ถ้าไม่มีแม่อยู่ด้วย ในเรื่องนี้ปรางได้ไตร่ตรองดีแลัวไม่ใช่การตัดสินใจชั่ววูบ ปรางรู้ซึ้งในสภาพร่างกายและหัวใจของตัวเอง ขอให้เคารพการตัดสินใจของปราง ปรางขอโทษจากใจจริงถ้าการตัดสินใจและการกระทำนี้จะส่งผลกระทบกับใคร และเสียใจมากๆที่ปรางไม่สามารถอยู่ดูแลพ่อจนวันสุดท้ายของพ่อได้ แต่ปรางขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ทำทุกๆอย่างให้ทุกๆคนอย่างเต็มความสามารถและศักยภาพของตัวเอง ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่ง ลงชื่อ ปราง ( ปรางนลิน จตุรภัทร์) ”
             จากการสอบสวน นายเพ็ชร นามสมมุติ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อและสามีของผู้ตายทั้ง 2 ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่สามารถติดต่อภรรยากับลูกสาวได้ตั้งแต่ในช่วงเมื่อวาน (18 ก.ค.) เพราะทั้งคู่ได้เดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อมาพักรักษาตัวที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ภายหลังติดต่อไม่ได้จึงขับรถจากกรุงเทพ เพื่อมาดูลูกกับภรรยา เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านถึงกับช็อก เมื่อพบศพทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่คู่กันบนเตียงนอน พร้อมกับจดหมายลาตาย จึงรีบขับรถไปแจ้งตำรวจที่โรงพัก สภ.หนองปรือ เพื่อมาทำการตรวจสอบ และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน

          มีชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นสองแม่ลูกมาพักอาศัยได้ประมาณ 4-5 วัน ระหว่างที่พักเห็นทั้งคู่มีอาการปกติไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่ที่น่าแปลกใจจะพบว่า 2 แม่ลูก จะสวมใส่ชุดดำตลอดเวลา จนกระทั่งไม่เห็นสองแม่ลูกมาประมาณ 2 วัน พอมาทราบข่าวว่า ทั้งคู่เสียชีวิตก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
          พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เบื้องต้น พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน โดยทั้งคู่มีการกินสารเคมีบางอย่าง จนทำให้เสียชีวิต อีกทั้งยังพบหลักฐานเป็นจดหมายสั่งเสียของผู้ตายทั้งคู่ ถูกเขียนขึ้นในลักษณะสั่งเสียและสาเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ส่วนการฆ่าตัวตายในครั้งนี้มาจากเรื่อง ปัญหาสุขภาพของทั้งคู่ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจร่วมกัน ในการดื่มสารเคมีเข้าไปพร้อมกันคนละ 1 แก้ว จนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายพบว่า เป็นภรรยาและลูกสาว ของเจ้าของธุรกิจ เคมีภัณฑ์อุตสหรกรรมกระดาษทรายและวัสดุก่อสร้าง ส่วนลูกสาวมีดีกรีเป็นนักเรียนนอก
           อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป สำหรับ ยาโซเดียมไนไตรท์ ถือเป็นยาออกฤทธิ์และมีผลข้างเคียงคล้ายกับยาไซยาไนด์ โดยจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดสภาวะความดันต่ำ และอาจทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง จนเกิดสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และ เสียชีวิตลงในที่สุด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!