นครปฐม-“หลวงพี่น้ำฝน”เปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขาร”หลวงพ่อพูล”ปีที่ 19 สาธุชนแน่นวัด
ภาพ-ข่าว:บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
เมื่อบ่ายวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากวิหารหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ศิษย์เอกหลวงพ่อพูลได้ประกอบพิธีเปลี่ยนผ้าครองพระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข เกจิดังอดีตเจ้าอาวาส ที่ละสังขารไป เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2548 ด้วยวัย 93 ปีเวลา 14.55 น.
จากการที่ท่านละสังขารจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง 19ปี ด้วยปาฏิหาริย์สรีระของท่านยังคงสภาพเดิมไม่เน่าเปื่อยทางวัดจึงได้นำสรีระสังขาร บรรจุลงโลงแก้วตั้งไว้ให้ศิษย์ยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสที่เคารพศรัทธาได้กราบไหว้ และเมื่อครบกำหนดทุกๆ 1 ปี หลวงพี่น้ำฝน จะทำการเปลี่ยนผ้าครองหุ้มสรีระ รวมถึงเช็ดทำความสะอาด เพื่อเป็นการรำลึกถึงและความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ โดยถือฤกษ์วันพระใหญ่ อาสาฬหบุชา ของทุกปี
ส่วนบรรยากาศในพิธีนั้น มีนายสมชาติ (นายเงี๊ยบ)สาลีพัฒนา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ รางวัลมิชเชอลีน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมเหล่าบรรดาศิลปินนักร้อง นักแสดงชื่อดังมาร่วมพิธี เช่น พลพล พลกองเส็ง เต้ ปิติศักดิ์ ธนิศร ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ นำทีม ร่วมด้วยสาธุชน ศิษยานุศิษย์ จำนวนมาก
โดยบรรยากาศในพิธีนั้น สาธุชน ศิษยุศิษย์ในพิธีต่างฮือฮอาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่วัดได้เคลื่อนย้ายสรีระหลวงพ่อพูลออกจากโลงแก้ว แล้วนำลงมาเช็ดตัวทำความสะอาดเปลี่ยนผ้า ต่างได้สังเกตว่า บริเวณหัวไหล่ ช่วงท้อง ลำตัวได้เปลี่ยนสีคล้ายสีประกายทอง นอกจากนี้ยังมีเส้นผม และเล็บที่ยาวออกมาด้วย คล้ายกับยังมีชีวิต ต่างยกมือท่วมหัวอธิษฐานขอพร หลังเสร็จสิ้น หลวงพี่น้ำฝนได้ให้สาธุชน ก้มกราบที่ปลายเท้าแล้วก้มศีรษะจรดที่ปลายเท้าของหลวงพ่อพูลจากนั้นได้ทำการคลานเข่าเพื่อลอดใต้โต๊ะ เพื่อความเป็นศิริมงคล
สำหรับประวัติของ พระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล อัตตรักโข เกจิดังอดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ. นครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2545 ปีชวด เข้าบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2480 ที่วัดพระงามพระอารามหลวง โดยได้รับฉายาอัตลักษณ์โขนมีความหมายว่าผู้รักษาตนและจากนั้นได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมเมื่อปี 2490 ถึง 2548 ด้วยหลวงพ่อพูนท่านละสังขารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2548 ด้วยวัย 93 ปีเวลา 14.55 น.
ซึ่งวันที่ละสังขารนั้นตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวัน เกิด ตายและสำเร็จปริณิพาน ของพระพุทธเจ้า ด้วยปาฏิหาริย์สรีระของท่านยังคงสภาพเดิมไม่เน่าเปื่อยทางวัดจึงได้นำร่างของหลวงพ่อพูลอัตตรักโขบรรจุลงโลงแก้วตั้งไว้ให้ศิษย์ยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสที่เคารพศรัทธาได้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ในวันดังกล่าวเกิดการมงคลตรงกับวันวิสาขบูชา พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์และหลวงพ่อพูล ละสังขารในวันเดียวกัน