อุตรดิตถ์-ตรวจยึดการลักลอบตัดไม้สักหวงห้ามในพื้นที่ป่าสงวน

อุตรดิตถ์-ตรวจยึดการลักลอบตัดไม้สักหวงห้ามในพื้นที่ป่าสงวน

ภาพ-ข่าว;พูลชัย ราชประสิทธิ์

             เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 จากการสั่งการของนายนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอลับแล ได้รับแจ้งจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ว่ามีการลักลอบตัดฟัน โค่นล้มไม้สัก ที่ บริเวณป้าเด่นปู่แจ้ ท้องที่บ้านคุ้ม ม.4 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยช้างและป่าเด่นปู่แจ้
            หลังจากรับแจ้งแล้วจึงได้สั่งการให้ นายสมศักดิ์ สุทธตั้ง กำนันตำบลชัยจุมพล นายสมควร พิมพ์สวัสดิ์ สารวัตรกำนันตำบลทุ่งยั้ง, นายบุญมี พิมพ์สวัสดิ์, นายบุญเรือง อู่รอด, นายวิทยา พรมพูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตำบลชัยจุมพล และตำบลทุ่งยั้ง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่อต.2(นาลับแลง), เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้สจป.ที่3(ลำปาง)2, พร้อมด้วยนายอิทธิศักดิ์ ต๊ะคำ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันและฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอลับแล สมาชิกอาสารักษาดินแดนอำเภอลับแลได้เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว
           จากการตรวจสอบและร่วมกันตรวจยึดไม้สักท่อน 26ท่อนในพื้นที่ หมู่ที่4 บ้านคุ้ม ตำบลชัยจุมพล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ที่ บริเวณป่าเด่นปู่แจ้ ท้องที่บ้านคุ้ม ม.4 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยช้างและป่าเด่นปู่แจ้ ซึ่งไม้สักท่อน จำนวน 26 ท่อน ปริมาตร ๕.๑๓ ลบ.คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ ไม้สักท่อน จำนวน 247,800 บาท (สองแสนสี่หมื่นเจ็ดพันแปดร้อยบาทถ้วน)
             โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด 1.ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา 11 ข้อหาฐาน “ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก้ไม้หวงห้าม ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” มาตรา 69 ข้อหาฐาน “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย” 2.กระทำผิด พ.ร.บ.ป้าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2559 ภูมิพลอดุลยเดช ภ.ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เป็นปีที่ 71 ในราชการปัจจุบัน มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลโดยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป้า ทำไม้ เก็บหาของป้า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
             เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงได้วางแผนดักชุ่มเพื่อรอให้ผู้กระทำผิด (ผู้ตัดโค่นล้มไม้สัก)เข้ามาดำเนินการชักลาก จากการดักซุ่มยังไม่พบบุคคลใดเข้ามาชักลากไม้สักแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ 21 ก.ค. พบว่าเป็นบริเวณเดียวกัน จึงทำการดักชุ่มในวันหยุดราชการ จนถึงวันที่ 22 ก.ค. 67 แต่ยังไม่มีบุคคลใดเข้ามาชักลากไม้ดังกล่าว คาดว่าผู้กระทำผิดน่าจะรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ในบริเวณป้าใกล้ที่มีการลักลอบตัดฟันโค่นล้มไม้สัก และในวันนี้ 23 ก.ค. 67 เวลา 09.30 น. คณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบการลักลอบตัด ฟัน โค่น ล้ม ไม้สัก ตามที่ได้สืบทราบจากการข่าว และได้รับรายงานจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ บริเวณป่าเด่นปู่แจ้ ท้องที่บ้านคุ้ม ม.4 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล
            ปรากฏว่า ได้ตรวจพบร่องรอยการชักลากไม้สักลงมาจากเชิงเขา คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เดินตามผลปรากฏว่า ได้ตรวจพบไม้สักถูกตัดฟัน โค่นล้มคาตอ จำนวน 15 ตอ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องตรวจหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม (GPS) จับหาค่าพิกัดบริเวณที่เกิดเหตุ จำนวน 15 ตอ และได้ตรวจสอบ ผลปรากฏว่า อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยช้างและป่าปู่เจ้าคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบไม้ลักท่อนที่ตรวจพบทั้งหมด มีลักษณะใหม่ สุด ไม้ไม่เคยผ่านการประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย หรือเครื่องใช้ใดๆ มาก่อน หน้าตัดและเชียงช้างไม้มีรูปรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือรูปรอยตราสวนป่าเอกชนตีประทับไว้ เพื่อเป็นการอนุญาตที่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด บริเวณที่เกิดเหตอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยช้างและป่าปี่เจ้า
            คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้าไม้ พุทธศักราช 2484 ม.110, ม.69 และตาม พ.ร.บ.ป้าสงวนแห่งชาติ ศ. 2507 ม.14 เจ้าหน้าที่ได้ชักลากไม้ของกลางออกจากที่เกิดเหตุพร้อมทั้งได้จัดทำบันทำการตรวจยึด และนำไม้สักทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลับแล เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
            โดยมอบให้นายมงคล มิ่งขวัญ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าป่าที่ อต.๒(นาลับแลง) เป็นผู้กล่าวโทษ และให้นายนครรัตน์ เพลิดเพลิน เจ้าหน้าที่ตรวจป้า (พร.) เป็นพยาน สำหรับไม้สักท่อน ของกลาง ได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.๒ (นาลับแลง)

           อนึ่ง ในการตรวจยึดครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ทุกนายได้ปฏิบัติไปตานอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย มิได้บังคับ ขู่เข็ญ หรือทำให้บุคคลใดได้รับอันตรายแก่ร่างกาย และจิตใจ มิได้เรียกร้องทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด มาเป็นประโยชน์ส่วนตน หรือผู้อื่นแต่อย่างใด และมิได้ทำให้ทรัพย์สินของเสียหาย สูญหาย เสื่อมค่า แต่อย่างใด

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!