“ถอยดีกว่า..ไม่เอาดีกว่า”
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
ติดตามอ่านข่าว ส.ว.กลุ่มหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่าเป็น “ส.ว.พันธุ์ใหม่” ออกแถลงการณ์ และล่ารายชื่อ ส.ว.กลุ่มหนึ่งคัดค้านการเสนอของคณะกรรมการกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำตัดสินในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จริงๆผมไม่ได้คาดหวังอะไรกับการทำหน้าที่ของส.ว. ชุดนี้มากนักมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะพอจะรู้ที่มาที่ไปอยู่บ้างแต่เมื่อมาเจอบริบทนี้ยังผิดหวังหนักเข้าไปอีก อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของ สว.ที่เรียกตัวเองว่า “พันธุ์ใหม่” แต่กลับไม่ศึกษา ไม่เรียนรู้รัฐธรรมนูญ
การก่อการเริ่มกระทำ น่าจะผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ลองพลิกไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 185 กำหนดไว้ชัดว่า” ส.ว./ส.ส.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งของตนกระทำการอันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม“ การล่ารายชื่อส.ว.ค้านศาล นั่นเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของศาล ผลของการก้าวก่าย คือ ต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 111(7) กฎหมายได้แยกบทบาท-หน้าที่ของแต่ละฝ่ายไว้ให้แล้ว ไม่ก้าวก่าย แทรกแซงจึงกันและกัน ซึ่งถ้าทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง ไม่แทรกแซงซึ่งกันและกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด
แต่การกระทำของส.ว.พันธุ์ใหม่กลับมีบริบทที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเสียเอง ทั้งๆที่ฝ่ายนิติบัญญัติ มีแนวโน้มสูงว่าจะถูกยื่นถอดถอนตามมาตรา 111(7) อันจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายก็ไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องถอย ด้วยเหตุผลง่ายๆ “ทำไม่ทัน” “ทางกลุ่มยุติการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนและความเห็นต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย คดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่7 ส.ค.แล้ว เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าคงทำไม่ทันเวลา” แต่ข้อเท็จจริง น่าจะเห็นอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่า จึงต้องถอย เพื่อรักษาสถานะไว้ดีกว่า