ประจวบคีรีขันธ์-ปลอมเป็นรถผลไม้ขนแรงงานเถื่อนลงภาคใต้..!

ประจวบคีรีขันธ์-ปลอมเป็นรถผลไม้ขนแรงงานเถื่อนลงภาคใต้..!

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

         วันที่ 10 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยางพร้อมชุดทหาร ฉก.จงอางศึก ร่วมทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวพร้อมผู้นำพารวมจำนวน 27 คน ขณะซุกตัวอยู่ภายในด้านหลังรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กสีขาว-ดำ ทะเบียน 5788 นครปฐม ขณะกำลังจะวิ่งผ่านจุดตรวจบริเวณด่านตรวจ สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบฯ โดยรถคันดังกล่าวมีลักษณะคล้ายรถส่งผลไม้มีการนำผ้าใบลายฟ้าขาวคุมรอบกระ บะอย่างมิดชิดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไปไม่รอดถูกตำรวจตาไวจับได้เสียก่อน
         ร.ต.ต.นิพนธ์ สนธิ รอง สว.(สส.)สภ.ห้วยยาง เล่าเหตุการณ์ระหว่างทำการจับกุมให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอยู่บริเวณหน้าด่านตรวจเวลาประมาณ 08.00 น. มีรถกระบะคันดังกล่าวกำลังวิ่งเข้าจุดตรวจฝั่งขาล่องใต้โดยมีผ้าใบลายฟ้าขาวปิดคุมกระบะหลังมิดชิดคล้ายรถขนส่งผลไม้นำลงใต้ จึงเรียกจรวจเอกสารรถพร้อมถ่ายรูปรายงานตามปกติ คิดว่าเป็นรถขนส่งผลไม้ทั่วไปเนื่องจากมีการตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สังเกตเห็นว่ารถขนผลไม้คันนี้มีผ้าใบคุมมิดชิดผิดปกติ จึงเดินไปแหวกผ้าใบที่คลุมออกเห็นเป็นขาคนจึงทำการเปิดออกดูพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวหลายคนกำลังนั่งเบียดเสียดอัดกันแน่นเป็นปลากระป๋องอยู่ท้ายกระบะ จึงทำการควบคุมตัวคนขับรถทั้งสองคน พร้อมรถยนต์ อิซูซุ ดีแม็ก สีขาว-ดำ และแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจำนวน 25 คน ส่ง สภ.ห้วยยาง
         จากนั้นจึงรายงานให้ พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยางทราบ โดยทราบชื่อภายหลังชื่อนาย นัสพล อายุ 24 ปีเป็นชาว จ.ปราจีนบุรี และนายภคิน อายุ 26 ปี เป็นชาว จ.สมุทรสาคร พร้อมควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวอีกจำนวน 25 คน ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติบันทึกการจับกุมหลังตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนส่งให้ ตร.ตม.ดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนผู้นำพาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย
         จากการสอบสวนเบื้องตนทราบว่า นายนัฐพลและนายภคิน ทั้งสองรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างผ่านการติดต่อจากกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่ง ให้ไปรับคนในพื้นที่ ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ให้ไปส่งยังปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท หลังเสร็จงาน ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 25 คนจากการสอบถามผ่านล่ามทราบว่า ทั้งหมดมาจากประเทศเมียนมาร์(พม่า)หวังเข้ามาหางานทำในฝั่งไทย บางรายมีนายจ้างรองรับเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาทหากนำพาสำเร็จ ส่วนบางรายหนีภัยสู้รบความไม่สงบในประเทศ หวังเข้ามาหางานทำก็ต้องจ่ายค่านำพาก่อนเนื่องจากไม่มีตั๋วคุมจากนายจ้างฝั่งไทยรองรับ และบางรายกลัวถูกให้ไปเกณฑ์ทหารจึงยอมเสียเงินหลายหมื่นบาทหวังได้งานทำในประเทศไทย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!