ประจวบคีรีขันธ์-เจ้าอาวาสวัดธรรมิการาม..เมินยกธรณีสงฆ์สนามกอล์ฟอัลไพน์..
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
“ร้องนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ถือหุ้น ย้ำชัดวัดไม่ต้องการได้ที่ดินกลับคืน”
กรณีที่หลายฝ่ายจะหยิบยกปัญหาความผิดด้านจริยธรรม ร้องเรียนนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 อาจถือหุ้น 30 % ในที่ดินธรณีสงฆ์ สืบเนื่องจากกรณีนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้มอบที่ดินธรณีสงฆ์ 924 ไร่ ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้วัดธรรมการามวรวิหาร หรือวัดเขาช่องกระจก อ.เมืองประจวบฯ
ต่อมาที่ดินดังกล่าวได้ถูกขายในราคา 130 ล้านบาท และโอนให้กับ บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ ต่อมามีการขายที่ดินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยมูลค่า 500 ล้านบาท กระทั่งศาลเห็นว่ามีการโอนที่ธรณีสงฆ์โดยมิชอบ ผู้เกี่ยวข้องผิดวินัยร้ายแรง จึงมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดในที่ดินดังกล่าวให้กลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์
วันที่ 20 สิงหาคม 67 พระเทพวชิรสุธี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร และ เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ธรรมยุต) เปิดเผยว่า ทางวัดจะไม่ขอมีส่วนเกี่ยงข้องกับที่ดินแปลงนี้อีก ผู้เกี่ยวข้องจะทำการอย่างไรก็จะไม่ไปยุ่งเกี่ยว หากรัฐบาลที่มีหน้าที่อย่างไรก็แล้วแต่จะตัดสินใจตามกฎหมายบ้านเมือง แต่วัดจะไม่ยุ่งเกี่ยว เนื่องจากการขายที่ดินแปลงนี้เป็นเรื่องที่หลวงพ่อใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนได้ตัดสินใจทำการผ่านมติกรรมการหรือขายไปแล้ว และที่ผ่านมามีตัวแทนกรรมการหลายฝ่ายเข้ามาเจรจา แต่ก็ยืนยันว่าอาตมาทำอะไรไม่ได้
พระเทพวชิรสุธี กล่าวว่า ขณะนี้วัดได้รับดอกเบี้ยเพื่อนำมาใช้จ่ายในวัด จากการซื้อขายที่ดินที่ดูแลโดยมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งยอมรับว่าดอกเบี้ยที่ได้ไม่มากเหมือนในอดีต สำหรับกรณีข้อพิพาทจากที่ดินแปลงนี้ทำให้ญาติโยมมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าขายไปแล้ว ปัจจุบันทางวัดยังใช้เงินที่ได้จากดอกเบี้ย วัดจะเอาที่ดินคืนได้อย่างไร อีกฝ่ายก็อยากให้วัดได้ที่ดินกลับคืน เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ของวัด
ส่วนตัวแทนสำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัดเบื้องต้นก็ยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่ได้ให้คำแนะนำ แต่ทางอาตมาขอยืนยันไม่ว่าจะมีใครหยิบยกมาเป็นประเด็นการเมืองหรือเรื่องอื่น อาตมาจะขออยู่เฉยน่าจะดีที่สุด ถ้าหากแสดงความเห็นเรื่องนี้ออกไปอย่างไรก็อาจจะเกิดความเสียหาย