ประจวบคีรีขันธ์-นายก อบต.เกาะหลัก ร่วม“รณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติด”
ภาพ-ข่าว:สุพรรณี ศรีสุนทร
บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
การค้ายาเสพติดนับได้ว่าเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษทั้งจำคุกและถูกยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ซึ่งโทษของการค้ายาเสพติดจะมีโทษจำคุกและชำระค่าปรับ ความหนักเบาของโทษที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และจำนวนยาเสพติดที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดมาได้ขณะกระทำความผิด
นอกจากโทษจำคุกแล้ว ผู้ที่กระทำความผิดฐานค้ายาเสพติดจะถูกยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดด้วย ซึ่งรวมถึงเงินสด ทองคำ อัญมณี รถยนต์ บ้าน ที่ดิน ทรัพย์สินที่ถูกยึดจะตกเป็นของแผ่นดิน และจะนำไปใช้เพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดต่อไป
ดังนั้น ทุกคนจึงไม่ควรคิดที่จะรวยทางลัดด้วยการหันมาค้าขายยาเสพติด ถึงแม้ว่าจะหาเงินทองมาได้มากมาย แต่สุดท้าย ก็จะไม่พ้นต้องถูกเจ้าหน้าที่ติดตามและจับกุมตัวได้ในที่สุด ชีวิตก็จะต้องถูกคุมขังในเรือนจำอาจจะนานหลายปี หรืออาจจะตลอดชีวิต ส่วนทรัพย์สินสมบัติที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องสูญสลายไปเป็นของหลวงหลังถูกยึดทรัพย์ ชีวิตของคนในครอบครัวก็จะประสบพบเคราะห์กรรม ที่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกผู้คนดูถูกดูแคลน หรืออาจจะถึงขั้นไร้แม้ประทั่งที่อยู่อาศัยเสียด้วยซ้ำ หากบ้านที่เราอาศัยอยู่นั้นได้มาจากการค้ายาเสพติด
กระผม นายสุวิทย์ เยื่อใย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “รณรงค์ป้องกันและต่อต้านยาเสพติด” และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ประสบวิกฤตในชีวิต สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยไม่ต้องคิดผิด ตัดอนาคตของตัวเองและครอบครัว ด้วยการหันหน้ามาค้ายาเสพติด หาเงินด้วยการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งสุดท้ายก็จะไม่เหลืออะไรแม้แต่อิสรภาพของตัวเอง