เชียงใหม่-ปภ.เผยน้ำท่วมเชียงดาวกลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเชียงใหม่

        หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่แจง เหตุน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางสายเชียงดาว – ไชยปราการ บริเวณดอยหัวโท น้ำเอ่อท่วมถนน สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว แต่โซเซียลมีเดียแชร์ว่อน เผยเขื่อนแม่งัด และน้ำปิงยังรับน้ำได้ วอนหยุดแชร์
         วันนี้ (22 ส.ค.67) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว ให้ตรวจสอบกรณีสื่อโซเชียลมีเดีย แชร์ภาพและคลิปเหตุน้ำป่าไหลหลาก บริเวณดอยหัวโท เขตรอยต่อเชียงดาว-ไชยปราการ น้ำเอ่อล้นท่วมทางหลวง 107 สัญจรด้วยความยากลำบาก พร้อมข้อความแจ้งเตือนว่า ”จะไหลหลากถึงในตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง“นั้น
           นายดุสิต พงษศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ชี้แจงว่า เหตุน้ำป่าไหลหลากที่ อ.เชียงดาว ดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ช่วงบ่ายของวันที่ 21 สิงหาคม 2567 สถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว น้ำจะท่วมเมืองเชียงใหม่มาจาก 2 กรณี คือ พายุหมุนเขตร้อนที่เข้าทางเวียดนาม และ สปป.ลาว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการก่อตัวของพายุดังกล่าว กรณีที่ 2 คือฝนตกหนักเกิน 50 มิลลิเมตร ขึ้นไป เมื่อวันที่ 20-21 สิงหาคม ที่ผ่านมาฝนตกสะสมเพียง 18 มิลลิเมตร ซึ่งขณะนี้น้ำปิงจากเชียงดาว จุด P.20 และจุด P.67 บ้านแม่แต อ.สันทราย สู่แม่น้ำปิงเมืองเชียงใหม่ยังต่ำกว่าตลิ่ง ส่วนจุด P.1 วัดได้ 2 เมตร ยังไม่เกินจุดวิกฤตที่ 3.70 เมตร โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เก็บน้ำไว้มี 77% สามารถรับน้ำได้อีก 23% จึงสามารถรับน้ำได้อยู่
           โดยก่อนหน้านี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบูรณาการ แลกเปลี่ยนข้อมูล ในรูปแบบ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ตรวจสอบจุดระบายน้ำ และจุดน้ำท่วมซ้ำซากต่างๆ ขุดลอกท่อระบายน้ำไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับน้ำในฤดูฝนในช่วงนี้ จึงสามารถรับมือได้
            โดยมีข้อห่วงใยในเรื่องการติดตามข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่บิดเบือน ส่งผลให้การให้ความช่วยเหลือ แก้ ไขสถานการณ์เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากประชาชนเกิดความตื่นตระหนก และยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จังหวัดเชียงใหม่ให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ และข้อมูลชุดเดียวกัน เพื่อรับมือกับฤดูฝนจนถึงเดือนกันยายนนี้