ระยอง-เปิดเวทีหาทางแก้ปัญหาโรงงานชุมชนโขดหิน
ภาพ-ข่าว:อัจฉรา วิเศษศรี
ชาวบ้านโขดหิน มาบตาพุด ร่วมเวที เสวนาการแก้ไขปัญหาโรงงานวินโพรเสส มี ส.ส.ระยอง จาก 2พื้นที่ และอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ร่วมหาทางออก ขณะที่ชาวบ้านวอนขอให้เร่งขนย้าย ขยะกากอุตสาหกรรมและตรวจสอบน้ำใต้ดินซ้ำ พร้อมดึงงบประมาณจากกองทุนโรงไฟฟ้ามาใช้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน
เวลา 10.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ ศาลาอเนกประสงค์ วัดโขดหิน ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรม จังหวัดระยอง พร้อมด้วย นางสาวกมนทรรศ์ กิตติสุนทรสกุล นายชุติพงษ์ ภิภพภิญโญ สส.ระยอง นายทรงธรรม สุขสว่าง หัวหน้ากลุ่ม มาบตาพุด Go Geen ร่วมเวทีการแก้ไขปัญหาโรงงานในชุมชนโขดหินอย่างมีส่วนร่วมจากประชาชน
นายจริยะ แว่วเสียง อายุ 57 ปีชาวบ้านชุมชนโขดหินบอกว่า ตอนก่อนที่โรง งานวินโพรเสส โขดหิน จะมาตั้งชาวบ้านไม่คิดว่าจะมีสารพิษหรือว่าสิ่งอันตรายอยู่ในโรงงานเข้าใจว่าเป็นโรงงานรับซื้อของเก่าเก็บของเก่าเท่านั้นจนกระทั่งในปี 2548 เจ้าหน้าที่มาตรวจน้ำบ่อพบว่าน้ำ มีอันตรายห้ามใช้อุปโภคบริโภคจนกระ ทั่งถึงทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีการตรวจซ้ำอีกชาวบ้านก็ยังใช้น้ำไม่ได้อยากให้มีการมาตรวจซ้ำและหาทางแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน
นอกจากนีั ยังมีข้อเสนอจากภาคประชาชนขอร้องให้กรมควบคุมมลพิษเข้ามาดำเนินการตรวจคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อมอื่นๆที่คาดว่าอาจเกิดผลกระทบต่อชุมชนจากโรงงานขยะสารเคมีวินโปรเสสโดยเร็ว เพราะจากข้อมูลจาก ชาวบ้านพบว่าวันนี้ บ่อน้ำตื้นปนเปื้อนสารเคมีหมดแล้ว และอยากให้เทศบาลมาบตาพุดเป็นเจ้าภาพประสานงานมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทำการวิจัยระยะยาวเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษจากโรงงานวินโปรเสสเพื่อนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ชุมชนอยากให้ใช้เงินกองทุนโรงไฟฟ้าจังหวัดระยองเสนอใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ล่วงหน้าไว้ก่อนเพื่อลดภาวะการกดดันด้านมลพิษที่เกิดขึ้นกับชุมชนโดยใช้ในกิจการขนย้ายส่วนในเรื่องของการบำบัดขอให้เป็นหน้าที่ของภาครัฐต่อไป
ส่วนทางด้านภาครัฐโดยอุตสาหกรรมจังหวัดระยองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดระยอง ในเขตพื้นที่เขต1และเขตเขต 4 ระบุว่า งบประมาณในการฟื้นฟูและเยียวยาทาง ส.ส.จะเสนอผ่านทางคณะกรรมาธิการและเสนอทางกระ ทรวงอุตสาหกรรมให้จัดตั้งงบประมาณโดยรัฐบาลโดยขอให้มีมติครม.อนุมัติงบกลาง เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาเหมือนกับกรณีวินโปรเสสที่ตำบลบางบุตร และมีข้อเสนอว่าถ้าท้องถิ่นโดยเทศบาลเมืองมาบตาพุดถ้ามีงบประมาณเพียงพอขอให้ช่วยสนับสนุนในงบประมาณการเคลื่อนย้ายสารเคมีและสารพิษด้วย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริษัทและโรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองมาบ ตาพุดที่เป็นสาเหตุของขยะและกากอุตสาหกรรมที่ เป็นมลพิษจะต้องช่วยดำเนินการออกค่าใช้จ่ายในเรื่องเหล่านี้ด้วย ตามนโยบายESG ของตลาดหลักทรัพย์ที่บริษัทมหาชนทุกบริษัทจะต้องสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนทางด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาลรอบรอบโรงงานของบริษัทที่ผลิตสินค้าและเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในเวทีเสวนา ทุกฝ่ายยังเห็นพ้องต้องกันในความวิตกกังวลว่าหาก หากยังไม่เร่งขนย้ายขยะกากสารเคมี หรือขุดดินเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม และถ้า เกิดไฟไหม้ขึ้นภายในโรงงานเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในโรง งานที่อยุธยาและที่อำเภอบ้านค่ายเท่ากับว่าหลักฐานทั้งหมดก็จะถูกทำลายไปด้วยหรือไม่อย่างไร
