สุโขทัย-เกษตรอำเภอเมืองฯเร่งลงพื้นที่รับแบบยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติฯ

ภาพ-ข่าว:ชวิศา สุริยา

              ทีมงานสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสุโขทัย นำโดยนางสาวชวิศา สุริยา เกษตรอำเภอเมืองสุโขทัย เร่งลงพื้นที่รับแบบยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ ด้านพืช (กษ.01) รวมถึงตรวจสอบพื้นที่เสียหายรายแปลงภายใต้หลักเกณฑ์ “พืชตายตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก” ร่วมกับคณะอนุกรรมการตรวจสอบพื้นที่เสียหายด้านการเกษตรระดับหมู่บ้าน ก่อนประมวลผลข้อมูลในระบบข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช
            ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ซึ่งมีหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ คือ 1) เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย 2) มีพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ ช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่
           โดยมีอัตราการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ อำเภอเมืองสุโขทัย ได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เกษตร ส่งผลให้พื้นที่ปลูกพืชคาดว่าจะเสียหายตามรายงานความเสียหายเบื้องต้น (คชภ.1) ทั้งหมด 7 ตำบล 26 หมู่บ้าน พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 8,031 ไร่ โดยจังหวัดสุโขทัยได้ประกาศเขตประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ครอบคลุมเกือบครบทุกหมู่บ้านแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการดำเนินการ
           นอกเหนือจากการเร่งตรวจสอบพื้นที่เสียหายตามขั้นตอนการช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรแล้ว สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสุโขทัย ได้จัดทีมเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูไม้ผลหลังน้ำลดเพื่อรักษาไม้ผลให้เกิดรากใหม่และให้แตกใบอ่อนโดยเร็ว รวมถึงมอบเมล็ดพันธุ์ผักที่ได้รับสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อลดค่าใช้จ่ายชั่วคราวให้กับเกษตรกร ต่อไป