“สรรเพชญ”หวังรัฐบาล เร่งเดินหน้านโยบายแก้ไขปัญหาปากท้องและนโยบายที่หาเสียงไว้
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
“ชี้ 1 ปี การเมืองสะดุด ผลงานไม่คืบหน้า”
11 กันยายน 2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีจะเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนปฏิบัติหน้าที่ว่า การเข้าแถลงนโยบายเป็นการทำสัญญาประชาคมที่รัฐบาลจะมาแถลงกับรัฐสภาว่า ในช่วงที่รัฐบาลจะทำหน้าที่ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายใดบ้าง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งเป็นการให้สัญญากับรัฐสภาซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนว่าจะทำหน้าที่ตามที่ได้แถลงไว้
สิ่งที่รัฐบาลได้เคยหาเสียงไว้ว่าจะทำนโยบายต่าง ๆ รัฐบาลต้องทำให้สำเร็จ เพราะรับปากกับประชาชนไว้และประชาชนเลือกเข้ามาให้ทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องนโยบายการแจกเงิน Digital Wallet ซึ่งอยู่ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล หากรัฐบาลจะแจกเป็นเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบางก่อนก็ต้องเร่งดำเนินการ เพราะงบประมาณรัฐบาลก็ได้กู้กลางปีและงบประมาณ 2568 ก็ผ่านความเห็นชอบสภาไปแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการกับนโยบายนี้ คือการทำให้เกิดขึ้นจริง อย่าให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง วันนี้ประชาชนเดือดร้อน หนี้ครัวเรือนสูง รายได้สวนทางกับรายจ่าย ค่าครองชีพสูง ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเร็วที่สุด รวมถึงการทำนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน อาทิ นโยบายโครงสร้างหนี้ที่รัฐบาลอยากจะปรับโครงสร้างหนี้ นโยบายหารายได้ใหม่ ๆ ผ่านสถานบันเทิงครบวงจร นโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด และนโยบายแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นอกจากนี้ นายสรรเพชญ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีการทำงานของรัฐบาลในชุดที่ผ่านมา จากเหตุที่มีอันต้องสะดุดลงเนื่องจากรัฐบาลกระทำผิดกฎหมายจริยธรรมร้ายแรงด้วยการแต่งตั้งคนที่เคยมีคดีเป็นรัฐมนตรี เรื่องนี้รัฐบาลต้องระมัดระวังตนเองให้มาก และไม่ควรกระทำการใด ๆ อันเป็นการสุ่มเสี่ยงในลักษณะเช่นนี้อีก เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดสุญญากาศทางการเมือง อีกทั้งตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ผลงานก็ไม่คืบหน้ายังเป็นการทำงานรับมือสถานการณ์ไปวัน ๆ โดยเฉพาะเรื่องราคาพลังงานที่ยังแก้ไขปัญหาไม่เป็นรูปธรรม ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว รัฐบาลต้องเร่งทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงการนำข้อร้องเรียนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้หารือไว้ในสภาไปแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อันจะเป็นผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนจับต้องได้ต่อไป