ราชบุรี-รวบ 2 คนร้ายตระเวนลักกล่องสัญญาณโทรศัพท์
ภาพ-ข่าว:ประทีป อยู่แช่ม
สืบสวนโพธารามโชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงรวบ2คนร้ายตระเวณลักกล่องสัญญาณโทรศัพท์ส่งขายให้นายทุนปล่อยต่อให้ชาวจีนคาดว่าเอาไปทำแก๊งค์คอนเซนเตอร์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2567 นายคมกริช แสงเพลิง ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ให้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม ดำเนินคดีกับคนร้าย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ลักทรัพย์สินเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมเสาให้สัญญาณ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัททรู มูฟ ฯ ประกอบไปด้วย อุปกรณ์ Baseband Controller model 6630 ยี่ห้อ ERICSSON จำนวน 5 ตัว อุปกรณ์ Fiber SFP Module หายไปจำนวน 30 ตัว และทำให้สายนำสัญญาณ (CPRl cabling cable, patch cord cable) อุปกรณ์สื่อสารระบบ 3G, 4G และ 5G ถูกตัดขาดได้รับความ เสียหาย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 550,000 บาท ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ สถานี Cell site RBR0400 (วัด ขนอน) บริเวณหมู่ที่4 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สถานี Cell site RBR0013 (วัดขนอน) บริเวณหมู่ที่4 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และ สถานี Cell site RBR0222 (ซอยสินสมบัติ) บริเวณเทศบาลโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
นอกนั้นคนร้ายได้ก่อเหตุในพื้นที่อ.บ้านโป่ง อ.จอมบึง อ.เมือง อ.ปากท่อและอ.ดำเนินสะดวก เฉพาะในส่วนของจ.ราชบุรีมูลค่าความเสียหายหลักล้านบาท และคนร้ายได้ก่อเหตุในพื้นที่จ.กาญจนบุรีและนครปฐมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการออก สืบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์เรื่อยมา และได้พบกล้องวงจรปิดจับภาพรถของคนร้ายเป็นรถยนต์กระบะ FORD สีขาว ขับรถไปและกลับ ที่บริเวณใกล้เคียงจุดซอยสินสมบัติ เขตเทศบาลโพธาราม และได้กล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายจอดรถและนายสามารถได้ลงรถเดินเข้าไปลักกล่องสัญญาณ และเดินขึ้นรถหลบหนีไปจุดนี้เป็นจุด ม.4 ต.สร้อยฟ้า
โดยคนร้ายมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองโพธาราม ออกถนนเพชรเกษมและไปเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกวัดจันทาราม อ.บ้านโป่ง และภาพกล้องวงจรปิดขณะที่รถคนร้ายขับเข้าหมู่บ้าน จนสืบทราบว่าคนร้ายที่เป็นผู้ก่อเหตุ คือ นายวัชรพล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องประสานกับพนักงานสอบสวนขอศาลจังหวัดราชบุรีออกหมายจับ นายวัชรพล เชื้อทอง และศาลจังหวัดราชบุรี อนุมัติหมายจับที่ จ.๓๗๙/๒๕๖๗ ลง ๙ ก.ย. ๒๕๖๗
หลังจากนั้นชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับ ว่านายวัชรพลอยู่ที่บริเวณถนนหน้า บ้านเลขที่ 24/22 หมู่6 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ชุดสืบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา และเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.วันที่ 9 กันยายน พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รองผบก. ภ.จว.ราชบุรี, และ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส. พ.ต.อ.ธีระยุทธ สุทธิพนไพศาล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ราชบุรี มอบหมายให้ พ.ต.ท. สมพร แดงมณี, รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.ราชบุรี ทราบและเดินทางไปทำการจับกุมพบ นายวัชรพล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ยืนอยู่ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 24/22 หมู่ 2 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จึงทำการจับกุม พร้อมแสดงหมายให้กับ นายวัชรพลดู โดยนายวัชรพล ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์คดีนี้จริงโดยร่วมกับนายสามารถ คงอยู่ ใช้รถยนต์กระบะFORD สีขาว ทะเบียน 3ฒฮ-1745 กทม.ออกตระเวณลักกล่องสัญญาณในที่ต่างๆ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ให้นายวัชรพลพาเข้าค้นบ้านแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และค้นที่บ้านเลขที่ 59/3 หมู่ 15 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย จึงนำตัวนายวัชรพล และนายสามารถ มาสอบสวน ที่สภ.โพธารามและนำไปชี้จุดที่ไปก่อเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพด้วยตนเอง โดยเริ่มจากสถานี Cell site RBR0222 (ซอย สินสมบัติ) บริเวณเทศบาลโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สถานี Cell site RBR0400 (บ้านวัดขนอน) บริเวณหมู่ที่4 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สถานี Cell site RBRO013 (วัดขนอน)บริเวณหมู่ที่ 4 ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการชี้จุด หลังจากนำชี้จุดเสร็จเรียบร้อยได้นำผู้ต้องหาทั้ง2ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม เพื่อดำเนินคดี ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำ ความผิดผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป
นายวัชรพล ได้ให้ถ้อยคำว่า ตนได้ ร่วมกับนายสามารถ ตะเวนลักทรัพย์อุปกรณ์ที่ควบคุมเสาให้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัททรูมูฟ ฯ โดยตนรับหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะCAB ยี่ห้อ FORD สีขาว ส่วนนายสามารถ รับหน้าที่เป็นคนลงไปก่อเหตุลักทรัพย์ โดยใช้กุญแจที่มีอยู่ ทำการไขตู้เก็บอุปกรณ์แล้วจึงลักเอา Baseband Controller model 6630 ยี่ห้อ ERICSSON และ อุปกรณ์ Fiber SFP Module ที่อยู่ตามสถานีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ไป โดยขับรถตะเวนไปตามจุดที่สถานีเสาสัญญาณ โทรศัพท์ตั้งอยู่ภายในเขตจังหวัดราชบุรี โดยเริ่มจากเขต อำเภอโพธาราม อำเภอบ้านโป่ง อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอปากท่อ อำเภอจอมบึง อำเภอเมืองราชบุรี นอกจากนั้นยังก่อเหตุในพื้นที่จ.กาญจนบุรี และนครปฐมอีก รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
หลังจากนั้นได้นำอุปกรณ์ควบคุมเสาให้สัญญาณ โทรศัพท์ไปขายต่อให้กับบุคคลที่มีการติดต่อขายผ่านทางไลน์ และนัดส่งมอบอุปกรณ์ที่ลักทรัพย์มาในเขตพื้นที่จังหวัด นนทบุรี ในราคาเครื่องละ 5,000 – 10,000 บาท ส่วนการส่งนั้นจะทำการส่งในแต่ละครั้งนั้นจะส่งที่ละเกือบ 10 เครื่อง ซึ่งผู้ที่รับซื้อเป็นคนจีน โดยมีนายกอล์ฟ รับหน้าที่เป็นคนกลางติดต่อประสานงานซื้อขายและเป็นล่ามแปล ซึ่งตนได้จ้างนายกอล์ฟ ครั้งละ 3,000 บาท ส่วนเงินที่ได้มาก็จะมาแบ่งกัน ส่วนชาวจีนที่รับซื้อไปไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร ซึ่งดูจากนายวัชรพล และนายสามารถนั้นใส่สร้อยทองเส้นโตรถยนต์กระบะคันก่อเหตุก็ซื้อมือ 2 ด้วยเงินสด ผ่อนบ้านเดือนละหมื่นกว่าบาท
ล่าสุดวันนี้ (10 กันยายน 2567 )ทางทางชุดสืบสวนของโรงพักต่างๆ ทั้งสภ.บ้านโป่ง สภ.จอมบึง สภ.ปากท่อ สภ.ดำเนินสะดวก และสภ.เมืองราชบุรี เดินทาง เข้ามาสอบสวนผู้ต้องหาและขออายัดตัวผู้ต้องหา จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น.ชุดสืบภาค 7 และสืบจังหวัดราชบุรี พร้อมสืบสวน สภ.โพธาราม ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอหมายค้น เข้าทำการค้นบ้านเป้าหมายที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่านำของกลางที่ลักไปไปส่งจำหน่ายที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
จากนั้นได้นำหมายค้นเข้าทำการค้นหาหลักฐาน พบชิ้นส่วนที่อยู่ภายในกล่องสัญญาณโทรศัพท์จำนวนกว่า 100 ชิ้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ของบริษัททรูมาตรวจสอบพบว่าเป็นชิ้นส่วนถายในกล่องรับส่งสัญญาณจริง ทางเจ้าหน้าที่ของทรูจึงนำกลับมาตรวจสอบเลข อีมี่ ว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นนั้นมาจากเสาส่งสัญญาณต้นไหนบ้าง เขตไหนบ้าง
และในวันนี้ 11 กันยายน 2567 ทางด้าน ร.ต.อ.พิชัย เชิงดี พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม เจ้าของคดีได้นำนายวัชรพล ผู้ต้องหานำส่งฝากขังศาลจังหวัดราชบุรี