ปทุมธานี-“ต้นอ้อเป็นหนึ่ง”พร้อมพม.เข้าช่วยเหลือแม่ลูกถูกสามีทำร้าย
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดปทุมธานี
วันที่ 27 กันยายน 2567 มูลนิธิเป็นหนึ่ง ลงพื้นที่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อไปตรวจสอบเคสแม่ของเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย จากกรณีเพจเฟสบุ๊คแห่งหนึ่งให้แชร์เรื่องราวของ น้องเอ(นามสมมุติ)ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายเป็นประจำ ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ก็ได้ถูกทำร้าย 2-3 ครั้ง ครั้งที่แล้วแขนหักและในครั้งนี้ถูกต่อยเข้าที่เบ้าตาจนตาบวมปูด ส่วนเด็ก 5 ขวบที่เป็นลูกก็ถูกทำร้ายในหลายเดือนก่อน
ญาติๆของน้องเอ(นามสมมุติ)ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้อย่างเดียว โดยที่ไม่ได้แจ้งความเพราะคิดว่าเป็นเรื่องในครอบครัว โดยเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากแฟนหนุ่มทำร้ายน้องเอเสร็จ ได้นำตัวลูกสาววัย 5 ขวบไปด้วย ยายเด็กบอกกับทางเราว่าอยากให้นำหลานวัย 5 ขวบกลับมาอยู่กับน้องเอด้วย เพราะพ่อเด็กเป็นคนโมโหง่าย ถ้าวันไหนไม่เจอน้องเอ อาจจะหันมาทำร้ายลูกสาวแทน ครั้งล่าสุดตอนที่ทำร้ายน้องเอ เด็ก5ขวบก็ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่โชคดีที่ไม่โดนทำร้ายไปด้วย
วันนี้มูลนิธิเป็นหนึ่งลงพื้นที่พร้อมบ้านพักเด็กและเจ้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เบื้องต้นได้พบกับแม่เด็กแม่เด็กมีอาการตื่นตระหนกร้องไห้และตกใจมีท่าทีที่ให้ความร่วมมือมากนัก อาจจะเรื่องเป็นห่วงสามีแต่บริเวณดวงตาข้างขวายังมีรอยฟกช้ำที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายเมื่อสามวันที่แล้วส่วนพ่อเด็กเราได้เข้าพูดคุยแล้วพ่อเด็กได้เล่าว่าได้มีการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกันจริงส่วนมากจะเป็นเรื่องปัญหาในครอบครัวเล็กๆน้อยๆที่ไม่เข้าใจกันและบานปลายจนทำให้มีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกัน พ่อเด็กยอมรับว่าตนเป็นคนอารมณ์ร้อนและ มักใช้ความรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง เรื่องการทำร้ายร่างกายน้อง
นางสาวแหม่ม (นามสมมุติ) อาย22 ปี แม่ของเด็กซึ่งถูกสามีทำร้ายด้วยบอกว่าซึ่งสามีทำร้ายตนเองมาตลอดซึ่งตนเองเคยไปแจ้งความไว้ที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ส่วนสามีเล่าว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายน้องแล้ว โดยตนบอกว่ารักเอ็นดูลูกมากๆ ตอนนั้นเป็นเพียงการตีเพื่อสั่งสอน แต่กับภรรยายังมีการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกันอยู่ประจำ ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าแม่ของแฟนจะเข้ามายุ่งทำไมเพราะเขาก็ไม่ได้มาดูแลหลานตั้งแต่แรกแล้ว ขณะนี้ลูกสาวตนเองอายุ 5 ขวบแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นขาประจำของสถานีตำรวจ เมื่อ สามวันที่แล้วก็เพิ่งเข้าไประงับเหตุที่มีการทำร้ายร่างกายกัน ทางฝ่ายหญิงได้มีการแจ้งความไว้และเข้าตรวจร่างกายแต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆเพิ่มเติม สุดท้ายนี้บทสรุปจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐเรามีหน้าที่เพียงนำเรื่องราวที่เราได้รับมาเข้าสู่กระบวนการรัฐเท่านั้น ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก นอกจากจะใช้แก้ปัญหาอะไรไม่ได้แล้วยังเป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่มเพิ่มขึ้นไปอีก
ด้านนางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ทางด้านพม.จังหวัดปทุมธานีได้คุยกับน้องผู้หญิงและผู้ชายเรียบร้อยแล้วซึ่งทั้งสองคนก็จะแบ่งกันดูแลลูกซึ่งผู้ชายจะดูแลลูก 5 วัน และน้องผู้หญิงจะดูแลลูก2 วัน ซึ่งคดีความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินควบคู่กันไปในเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ส่วนเด็กนั้นก็ต้องดูว่าได้รับความกระทบกระเทือนอะไรบ้างในเรื่องนี้
ส่วนต้นอ้อ บอกว่าตนเองได้รับข้อมูลจากเพจโซเชียลฮันเตอร์ว่ามีเหตุผู้ชายทำร้ายผู้หญิงซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกันตนเองจึงประสานพม.จ.ปทุมธานีลงพื้นที่ตรวจสอบเพราะมันเป็นเหตุความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งขณะนี้เราโฟกัสที่เด็กมากกว่าว่าถูกทำร้ายจริงไหม ซึ่งขณะตัวเด็กอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กแล้ว