นครปฐม-องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ

นครปฐม-องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ

ภาพ-ข่าว:บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน

              องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองเสือ ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
            วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ประธานอนุกรรมการการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ภาคกลาง ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองเสือ ณ โรงเรียนบ้านหนองเสือ (เรืองวิทยานุกูล) ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย ดร.สุทธิวัฒน์ มากมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองเสือ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรโยธา กรมชลประทาน ผู้แทนจากรมเจ้าท่า ชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด นายอำเภอเมืองนครปฐม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับ
            พร้อมประชุมรายงานตามที่ได้มีราษฎรบ้านหนองเสือ ยื่นหนังสือต่อเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ถวายฎีกา) กรณีประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน เนื่องจากคลองท่าผา-บางแก้ว ช่วงที่ไหลผ่านโรงเรียนวัดหนองเสือ มีความตื้นเขิน และไม่มีพนังกั้นน้ำ จึงไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่โรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ ในช่วงฤดูแล้งจะประสบปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและการทำเกษตรกรรม
            โดยที่ประชุมได้มีแนวทางการแก้ไข ตลอดถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เบื้องต้นกรมชลประทานเตรียมดำเนินการขุดลอกคลองระบายน้ำ 1 ขวา ท่าผา-บางแก้ว ความยาว 9 กิโลเมตร พร้อมรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำ อีกทั้งก่อสร้างพนังกั้นน้ำพร้อมติดตั้งราวกันตกทั้งสองฝั่ง ความยาวรวม 220 เมตร และปรับปรุงถนนคันคลองระบายน้ำ 1 ขวา ท่าผา-บางแก้ว ความยาวรวม 280 เมตร
           โอกาสนี้ องคมนตรีได้แนะนำการปลูกหญ้าแฝก เพื่อช่วยป้องกันการพังทลายของคันดิน อีกทั้งนำตัวอย่างการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งสามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลงพื้นที่ดูสภาพปัญหาคลองที่จะต้องดำเนินการแก้ไข สภาพโดยรวมของโรงเรียน และมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนบ้านหนองเสือ
        ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. ได้เตรียมสรุปผลและข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอต่อที่ประชุมคณะองคมนตรี ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อพิจารณากลั่นกรอง และกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!