ราชบุรี-สืบโพธารามจับแล้วโจรไอ้โม่งตระเวนเปิดหลังคาร้านของชำเข้าไปลักเงิน..!!
ภาพ-ข่าว:ประทีป อยู่แช่ม
“ล่าสุดเข้าไปลักเงินสด 4 แสน พร้อมสร้อยทองของบริษัทนักการเมืองท้องถิ่นได้เงินสดไป 4 แสนกว่านำเงินซื้อรถกระบะมาขับที่เหลือเล่นการพนัน”
จากกรณีที่คนร้ายแอบเข้าไปลักเงินสด4แสนกว่าพร้อมสร้อยทองภายในบริษัทของนักการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่งในเขต อ.โพธาราม กลางดึงของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้โดยคนร้ายสวมเสื้อคลุมมีไฟฉายส่องกบคาดอยู่ที่ศรีษะ ได้แอบเข้าไปลักเงินสดจำนวน 4 แสนกว่าและสร้อยทองอีก1บาทหลบหนีไป
ซึ่งหลังจากที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปดูกล้องวงจรปิดนั้นลักษณะของคนร้ายเป็นรายเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ ต.ชำแระ ต.สร้อยฟ้า ต.คลองตาคตและต.บ้านเลือก ร่วม8ครั้ง จึงเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหารายเดียวกัน และทางชุดสืบสวนพอทราบตัวอยู่แล้ว ขณะเดียวกันคนร้ายรายนี้ยังก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม อีกกว่า 7 ครั้ง
ทางด้านพ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม พ.ต.ท.ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส. สั่งการให้ พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส สภ.โพธาราม นำหมายจับร่วมกับ ชุดสืบสวน สภ.เขาดิน เข้าจับกุม นายตั้ม อายุ 37 ปี เป็นคน ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ แห่งหนึ่งในพื้นที่ม.3 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 450/2567 ลงวันที่ 25 ต.ค.2567
ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ บุกรุกเคหสถานโดยไม่มีเหตุสมควร โดยมีอาวุธปืน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”
พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์กระบะดีแมคซ์สีดำ 1คัน รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 2 คันที่ใช้ก่อเหตุ เงินสด120,000 บาท สร้อยทอง1บาท1เส้น เสื้อผ้าที่ใส่กระทำความผิด อาวุธปืน1กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน จึงนำของกลางและผู้ต้องหามาสอบสวนที่ สภ.โพธาราม
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุและเป็นบุคคลในกล้องวงจรปิด ได้เข้าไปก่อเหตุที่บริษัทแห่งหนึ่งของนักการเมืองท้องถิ่นในโพธารามจริง โดยได้เงินสดมา 4 แสน นำเงินไปซื้อรถยนต์กระบะดีแมคซ์ในราคา 150,000 เหลือเงินสด 120,000 ที่เหลือไปเล่นบาคาร่าจนหมด ส่วนอาวุธปืนดังกล่าวขโมยมาจากเขตพื้นที่ สภ.เขาดิน
นอกจากนั้นยังรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุร้านขายของชำในพื้นที่ตำบลชำแระ ตำบลสร้อยฟ้า ตำบลคลองตาคต ตำบลบ้านเลือก และในพื้นที่ สภ.เขาดินอีก ส่วนใหญ่จะลักเป็นพวกเงินสด เงินที่ได้ไปก็จะนำไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด ส่วนตัวผู้ต้องหาเองเคยเป็นช่างทำหลังคาบ้านจึงรู้วิธีการเปิดหลังคาและโรยตัวลงไปลักทรัพย์
ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ทางชุดสืบสวนเฝ้าติดตามตัวมานานแล้วรู้ชื่อรู้บ้านและเฝ้าดูพฤติกรรมมาตลอด แต่ยังไม่มีหลักฐาน จนผู้ต้องหารายนี้มาก่อเหตุซ้ำและมีผู้เสียหายจำหน้าได้ในระหว่างที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เขาดินและผู้เสียหายติดตามไปจนเห็นหน้าและจำได้ ซึ่งเป็นรายเดียวกับชุดสืบสวน สภ. โพธาราม เฝ้าดูอยู่ก่อนแล้ว จึงมั่นใจเข้าทำการจับกุมดังกล่าว