สิงห์บุรี-ตำรวจท่าช้างจับสองผัวเมียติดยางอมแงมลักตัดสายไฟฟ้าของทางหลวง
ภาพ-ข่าว:จีระแมน ขำฉา/จินตนา ปานมี
วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 16.40 น. พันตำรวจเอกสราวุฒิ ปรีดากรณ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง เข้าจับกุม น.ส.ศาริณี หรือ โอ๋ อายุ 32 ปี และ นายจิระเดช หรือนายน็อต อายุ 30 ปี ที่ได้ก่อเหตุลักลอบตัดสายไฟฟ้าของทางราชการ(แขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรี) ที่ริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น.ที่ผ่านมา
จากที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสภ.ท่าช้าง ว่ามีบุคคลไม่ทราบชื่อได้ลักลอบตัดสายไฟฟ้าของทางราชการ (แขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรี) ที่ริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ 20 จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ไม่พบบุคคลใดเลย แต่พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน ขธท 492 ลพบุรี จำนวน 1 คัน จอดอยู่ริมถนนสาธารณะ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ
จากการตรวจสอบพบร่องรอยการใช้เสียมขุดดินที่ฝังสายไฟฟ้า ทีตัดมาแล้วและพบสิ่งของ ดังนี้ 1.ยาบ้า จำนวน 7 เม็ด ชนิดเม็ด กลม-แบน สีแดง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติชนิด ดึงเปิด-กดปิด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพลาสติกสีเขียวอ่อน พบอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ 2.กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ พบวางอยู่บนพื้นหญ้าบริเวณใกล้ที่มีรอยขุดหลุมฝังสายไฟฟ้า 3.ไฟฉายคาดศีรษะ จำนวน 1 อัน พบวางอยู่บนพื้นหญ้าบริเวณใกล้ที่มีรอยขุดหลุมฝังสายไฟฟ้า 4.เสียมเหล็ก ยาวประมาณ 50 ซม. จำนวน 2 ด้าม พบวางอยู่บนพื้นหญ้าบริเวณใกล้ที่มีรอยขุดหลุมฝังสายไฟฟ้า 5.ขวดน้ำ จำนวน 2 ขวด พบวางอยู่บนพื้นหญ้าบริเวณใกล้ที่มีรอยขุดหลุมฝังสายไฟฟ้า 6.รองเท้าสีดำ จำนวน 1 ข้าง พบวางอยู่บนพื้นหญ้าบริเวณใกล้ที่มีรอยขุดหลุมฝังสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์และของกลางจำนวนดังกล่าว นำส่ง ร้อยตำรวจเอกวีระพันธ์ วงศ์อิน รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าช้าง
ซึ่งหลังจากตรวจยึดสิ่งของมาได้แล้ว เวลาประมาณ 11.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรี(ผู้เสียหาย) ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ว่า ที่บริเวณริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี มีทรัพย์สินของแขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรีได้รับความเสียหายดังนี้ 1.สายไฟฟ้า CV 2×2.5 มม.(สายไฟฟ้าเดินในเสาถึงดวงโคม) จำนวน 682 เมตร ราคา 38,533 บาท 2.สายไฟฟ้า CV 3×2.5 มม.(สายไฟเดินใต้ดิน) จำนวน 150 เมตร ราคา 48,750 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 87,283 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลโดยได้ประชุมวางแผนร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าช้าง ทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มี นางสำรวย พูลสวัสดิ์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่เนื่องจาก นางสำรวยฯ มีอาการป่วยจึงไม่สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ แต่เมื่อวันที่ 15 ต.ค.67 เวลาประมาณ 23.30 น. ได้มี น.ส.ศาริณี โตแก้ว หรือ โอ๋ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางสำรวยฯ มาขอยืมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปใช้งาน โดย น.ส.ศาริณีฯ บอกกับตนว่า จะนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับขี่ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ที่ ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี พร้อมกับบุตรสาว ของ น.ส.ศาริณีฯ
ต่อมา น.ส.ศาริณีฯ ได้กลับมาและได้นำบุตรสาวมาฝากไว้กับนางสำรวยฯ และได้ขอยืมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปใช้ต่อ ต่อมาเวลาช่วงเช้าของวันที่ 16 ต.ค.67 น.ส.ศาริณีฯ ได้ขี่รถจักรยานมาหานางสำรวยฯ นางสำรวยฯ จึงได้สอบถาม น.ส.ศาริณีฯ ว่ารถจักรยานยนต์ของตนหายไปไหน น.ส.ศาริณี บอกกับนางสำรวยฯ ว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าช้าง ยึดไว้ที่ สภ.ท่าช้าง โดย น.ส.ศาริณีฯ ได้สารภาพกับนางสำรวยฯ ว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น. น.ส.ศาริณีฯ อยู่กับนายจิระเดช พลอยแสง หรือนายน็อต อายุ 30 ปี ที่ริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี จริง ซึ่ง น.ส.ศิริณีฯ และนายจิระเดชฯ คบหาเป็นแฟนกัน เมื่อเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา นายจิระเดชฯ ขับขี่จักรยานยนต์ของนายจิระเดชฯ หลบหนีไป ส่วน น.ส.ศาริณีฯ ได้ทิ้งรถ จยย. วิ่งหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบข้อเท็จจริงจาก นางสำรวยฯ มารดาของน.ส.ศาริณีฯ จึงน่าเชื่อว่า น.ส.ศาริณีฯ และนายจิระเดชฯ เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าช้าง จึงได้ออกสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการออกหมายจับ น.ส.ศาริณีฯ และ นายจิระเดชฯ จากศาลจังหวัดสิงห์บุรี จนในที่สุดได้พบตัว น.ส.ศาริณี และ นายจิระเดช ที่ได้ก่อเหตุลักลอบตัดสายไฟฟ้าของทางราชการ(แขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรี) ที่ริมถนนสาธารณะ ม.2 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
ทั้งสองคนได้ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งสองคน ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ในเวลากลางคืน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1” นำส่ง ร้อยตำรวจเอกวีระพันธ์ วงศ์อิน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เพื่อดำเนินคดี ต่อไป