ปทุมธานี-ตำรวจเปิดฟาร์มเลี้ยงไส้เดือนสร้างรายได้เสริม
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดปทุมธานี
ฟาร์มไส้เดือนสวนลุงเพ็ง ตั้งอยู่ที่ 6/1 ม. 5 คลอง10 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ลุงเพ็ง หรือ ร.ต.ต.บุญเพ็ง กลพล ปัจจุบันตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ สภ.หนองเสือ ประกอบอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงไส้เดือน โดยมีป้ากุ้ง เผอิญ กาพล ภรรยาคอยให้ความช่วยเหลือและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงไส้เดือนในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากมูลไส้เดือนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ล้มลุกคลุกคลานลองผิดลองถูกมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน จากการให้คำแนะนำนวตกรรมใหม่ของกลุ่ม ปตท.
ป้ากุ้งคู่ชีวิตลุงเพ็ง เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการทำปุ๋ยมูลไส้เดือนว่า เนื่องจากครอบครัวพักอาศัยอยู่ที่บ้านของหลวง จึงคิดหาที่อยู่อาศัย ใหม่เพื่อเตรียมรองรับหลังจากที่สามีเกษียณราชการ ด้วยการซื้อที่ดินว่างเปล่าไว้ 1 ไร่ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกพืชผลทางการเกษตร และสร้างที่อยู่อาศัย แต่สิ่งที่เจอของการเริ่มต้นในที่ดินตรงนี้คือดินเปรี้ยว ไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้เลย จึงศึกษาไปดูงานกับเทศบาลบึงบาเพื่อหาความรู้มาอย่างต่อเนื่องและก็ได้มาประสบความสำเร็จที่สามารถเอาชนะดินตรงนี้ได้ด้วยการเลี้ยงไส้เดือน ประโยชน์ของมูลไส้เดือน ช่วยปรับปรุงโครงสร้างทางกายภาพของดินให้ดีขึ้น มีธาตุอาหารรองและอาหารเสริมที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหารแก่ดิน
ป้ากุ้ง เล่าย้อนหลังไปเมื่อปี 2558 เห็นเขาเลี้ยงไส้เดือนกันว่ามันมีประโยชน์อย่างไรก็เข้าไปเรียนรู้กับเทศบาลหนองเสือได้พาไปดูงานเริมจุดประกายตรงนั้นวิธีการเลี้ยงไส้เดือนนำมาปรับปรุงใช้ในที่ดินของเราไปเลื่อยๆ จนกระทั้ง ปตท.ได้มาเห็นว่าการเลี้ยงไส้เดือนมีประโยชน์อย่างไรต่อชุมชนและ เหมาะสมกับดินเปรี้ยวประเภทนี้อย่างไร จึงได้เข้ามาส่งเสริม ด้วยการสร้างโรงเรือนให้ ซึ่งโดยก่อนหน้านี้เราเลี้ยงแบบเปิดโดนแดดโดนฝนไม่สามารถควบคุมระบบอากาศและสภาพแวดล้อมให้ได้ไส้เดือนไม่โตหรือก็ตายไปส่งผลให้การผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนไม่ได้ปริมาณ
หลังจากที่ ปตท.มาสร้างโรงเรือนให้ปรากฏว่าตรงนี้สามารถเลี้ยงได้เป็นแบบอาชีพซึ่งเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวขึ้นมา ซึ่งการพัฒนาพื้นดินตรงนี้ที่มีต้นไม้หลากหลายชนิดจนร่มรื่นเขียวขจีก็ประมาณ 3 ปีกว่า ส่วนหนึ่งก็ไปเรียนรู้ระบบของเกษตรกรรมธรรมชาติโดยการนำมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของเราเพิ่มเติม ซึ่งทุกอย่างการปลูกไม้ผลไม้ประดับหรือแม้กระทั่งไม้ธรรมชาติ ก็จะใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือนรองก้นหลุมก่อนเพื่อให้ไข่ของไส้เดือนที่ติดไปกับมูลไส้เดือนเวลาที่มันเป็นตัวแล้วก็จะช่วยย่อยสลายอินทรีย์พรวนดินให้
ในส่วนของการให้ความรู้ที่ฟาร์มไส้เดือนลงเพ็งแห่งนี้ทางเทศบาลตำบลบึงบาก็จะนำเด็กในช่วงปฐมวัย เข้ามาเรียนรู้การลี้ยงไส้เดือนมีประโยชน์อย่างไร เรียนรู้ในเรื่องการเพาะปลูกที่ไม่ต้องใช้สารเคมี เพราะการที่จะเข้ากลุ่มเรียนรู้ได้ดีก็ในช่วงวัยเด็ก ส่วนผู้ใหญ่ที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ก็เริ่มสนใจและหันมามองเนื่องจากเขาเห็นผลสำเร็จในฟาร์มของเรา แต่ก็ยังติดใช้ระบบสารเคมีกันอยู่เพราะเขาห่วงผลผลิตแต่ยังไม่ได้คิดห่วงสุขภาพตัวเอง ซึ่งบางครั้งเกษตรกรบางรายไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนเพราะเกษตรธรรมชาติที่ใช้ต้นทุนน้อย เพราะว่าเขาต้องการผลผลิต สำหรับในฟาร์มลุงเพ็งก็จะทำไปเลื่อยๆแม้ว่าผลผลิตจะได้น้อยก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างน้อยครอบครัวเรามีกิน ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขายและสุขภาพของผู้บริโภคถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงคิดเสมอว่าทำอย่างไรที่จะให้เกษตรกรได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งอย่างน้อยก็จะเห็นว่าวันนี้มีกลุ่มของเกษตรกรเข้ามาเรียนรู้และก็มีนักวิชาการเข้ามาร่วมส่งเสริมความรู้ให้เขาด้วย
ถามทำไมจึงไม่ตั้งชื่อฟาร์มไส้เดือนป้ากุ้ง ป้ากุ้งตอบว่าสามีรับราชการเป็นตำรวจ เราเริ่มต้นกันมาจาก พนักงานโรงงานทอผ้า มองหาอนาคตข้างหน้ายังไม่เจอ จนสามีไปสมัครสอบเป็นนักเรียนพลตำรวจได้ และก็ได้บรรจุเข้าประจำการที่ สภ.หนองเสือ จนถึงปัจจุบัน ก็ยากตอบแทนองค์กรของสามี จึงใช้ชื่อ ฟาร์มลุงเพ็ง อย่างน้อยก็ต้องการให้สังคมมองภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นบวกบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะมองกันแต่ภาพลบ มาถึง ณ ตอนนี้ส่วนราชการ คนในชุมชนหรือเกษตรกรในพื้นที่ อ.หนองเสือ เริ่มเห็นความสำคัญตรงนี้ เพราะได้เห็นการพัฒนาเติมโตของเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีรายได้จากปุ๋ยมูลไส้เดือนและพืชผักจากที่ดินที่มีอยู่ 2 ไร่วันละ 800-1.000 บาท
นางเศรษฐมณี ถิลา ห้วหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าการพัฒนาต่อยอดส่งเสริมเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบึงบา ที่พัฒนาอาชีพของตัวเองในการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อตอบสนองด้านการตลาดที่มีมากขึ้น เนื่องผลผลิตมูลไส้เดือนยังมีไม่เพียงพอต่อลูกค้าจึงได้ส่งเสริมให้พี่น้องชาวเกษตรกรชุมชนตำบลบึงบาเป็นโครงการต่อยอดของสภาเกษตรกรจังหวัดปทุมธานี
นางบุญเตือน พ่วงสุวรรณ เกษตรกร ม.3 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนพื้นที่ มีความสนใจมานานแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามูลไส้เดือนนั้นจะช่วยให้ดินมีแร่ธาตุทำให้พืชผักสวนครัวมีคุณค่า ตนเองก็ปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นดินที่เป็นของตนเองเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวแต่ผลผลิตไม่ดี ซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็ปลูกกันไปเท่าที่รู้ด้วยการใช้ปุ๋ยเคมีบ้าง พอทราบว่าที่วิสาหกิจชุมชนฟาร์มลุงเพ็งเลี้ยงไส้เดือนทำปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งให้ธรรมชาติต่อสิ่งแวดล้อมจึงมาเข้ากลุ่มเรียนรู้เพื่อลดต้นทุนในครัวเรือนซึ่งวันนี้มาเห็นก็สามารถทำได้จริง เพื่อนำไปต่อยอดสร้างรายได้ให้กับครอบครัวต่อไป
ป้ากุ้ง กล่าวเสริมในท้ายอีกว่าการเลี้ยงใส้เดือนไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย ใช้กะละมังพลาสติกขนาดความกว้าง 50 ซม. ใช้มูลขี้วัว 3 กิโลกรัมก็ประมาณครึ่งกะละมังคลุกให้เข้ากันจากนั้นนำใส้เดือนใส่ลงไปทิ้งไว้ 18-20 วันก็จะได้มูลใส้เดือนแท้ๆเพียง 1 กิโลกรัม ซึ่งในกะละมังนั้นจะไม่มีขี้วัวหลงเหลืออยู่เลยเนื่องจากใส้เดือนที่เราใส่ลงไปได้กินขี้วัวจนหมดและย่อยสลายออกมาเป็นมูลใส้เดือนเป็นปุ๋ยอินทรีย์100%โดยในมูลใส้เดือนนั้นจะมีไข่เล็กๆใส้เดือนรวมอยู่ด้วย เมื่อเรานำปุ๋ยอินทรีย์จากมูลใส้เดือนไปใส่ตามต้นไม้หรือรองก้นหลุมก่อนปลูกต้นไม้ ไข่ใส้เดือนก็จะเริ่มออกเป็นตัวและช่วยพลวนดินโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีแต่อย่างใดสามารถตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี สนใจปุ๋ยอินทรีย์จากมูลใส้เดือน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ 086-0003647