ประจวบคีรีขันธ์-เจ้าภาพสั่งทุบลายปูนปั้นซุ้มประตูโบสถ์!!เพียงให้รถแห่นาคเข้า
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
หลวงพ่อเซ็งแห่นาคมันจนหยุดไม่ได้เจ้าภาพสั่งทุบลายปูนปั้นซุ้มประตูโบสถ์เสียหายเพียงแค่รถแห่เข้าไม่ได้
วันที่ 30 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณลุงสมาน อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ นำผู้สื่อข่าวพาชี้จุดเกิดเหตุขณะที่วงดนตรีรถแห่ในงานบวชนาครายหนึ่ง ทำการทุบทำลายปูนปั้นบริเวณด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ภายในวัดคั่นกะได ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.อ่าวน้อย เพียงเพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปวิ่งเวียนรอบโบสถ์เรียกเสียงเพลงให้บันดานักเต้นในงานบุญงานบวชได้สนุกสนานกันอย่างเมามัน โดยไม่แคร์สายตาประชาชนและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่กลุ่มของญาติเจ้าภาพประมาณ 2-3 คน กำลังทำการทุบลายปูนปั้นเก่าแก่ที่ติดอยู่บริเวณซุ้มประตูเข้าโบสถ์จนเกิดความเสียหายทั้งด้านในและด้านนอกซุ้ม สร้างความตกใจแก่ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ ขณะเข้าร่วมงานบวชแห่นาคเข้าโบสถ์ ซึ่งหลังเหตุการณ์จบทำให้ชาวบ้านและญาติพี่น้องของผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้นานหลายปี เกิดความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากบริเวณซุ้มประตูยังมีอัฐิกระดูกของบรรพบุรุษบรรจุไว้ และยังเป็นการทำลายศาสนสถานที่ควรแก่การเคารพบูชา และมีคุณค่าทางจิตใจของผู้บริจาคเงินสร้าง โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการทุบได้
ด้านคุณลุงสมาน เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ขณะมีกิจกรรมจัดงานบุญงานบวชนาคภายในบริเวณวัดของคณะเจ้าภาพรายหนึ่ง ได้มีกลุ่มญาติของเจ้าภาพและวงดนตรีรถแห่มีพฤติการณ์กระทำการโดยการใช้ไม้หน้าสามตีไปที่ลวดลายปูนปั้นที่ติดอยู่บริเวณด้านบนซุ้มประตูเข้าโบสถ์แตกหักกระจัดกระจายเสียหาย บ้างก็ขึ้นยืนบนรถแล้วใช้เท้ากระโดดใส่ทำลายทิ้ง เพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปเวียนรอบโบสถ์ โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการ
ซึ่งก่อนหน้านี้หลายปีก่อนเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้มาครั้งหนึ่งแล้วจนชาวบ้านไม่พอใจ จนทำให้มีคำสั่งห้ามจากต้นสังกัดมิให้นำรถแห่เข้าภายในโบสถ์ แต่ก็ไม่มีใครฟัง ซ้ำยังอ้างว่าหลวงพ่อสั่งให้ดำเนินการอีก ในเรื่องนี้จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ให้ดำเนินการในทางกฎหมายเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย รวมทั้งครอบครัวผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้ให้เป็นศาสนสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาต่างเกิดความไม่สบายใจ และอยากให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าว เข้ามาขอขมาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อยมานานหลายสิบปี อาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหลับชาวบ้านแล้วเป็นความรู้สึกที่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นยอย่างมาก
ทางด้าน พระครูปทีปธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดคั่นกระได ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวได้สั่งห้ามตั้งแต่เริ่มเข้ามาในวัดแล้ว โดยให้รถแห่อยู่ข้างนอกโบสถ์ แล้วให้นาคเข้าไปเดินแห่ภายในโบสถ์ ส่วนใครจะเต้นก็เต้นอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่มีใครฟัง ก็อยากให้มาขอขมา และอย่าทำอีก เนื่องจากเป็นคุณค่าทางจิตใจของผู้สร้าง ส่วนเรื่องการบูรณะซ่อมแซมก็ขอให้เข้ามาดำเนินการให้เหมือนเดิม