ปราจีนบุรี-“สีดอโหนก”ช้างป่าอ่างฤาไนแฝงตัวในชุมชนแรมเดือน..!!

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ทองสุข สิงห์พิมพ์

           วันที่ 9 พย.67 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบบุรรี รายงานว่าชาวบ้านต่างมีกันสนั่นว่า “สีดอโหนก” ช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไนจังหวัดฉะเชิงเทรา แตกฝูงออกมาหากินใกล้ย่านชุมชนพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้วรอยต่อเทศบาลสระบัว ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้ที่พบเห็นช้างป่าตัวใหญ่ที่พบเห็นในยามค่ำคืนหรือช่วงบ่ายคือ “สีดอกโหนก” ช้างป่าเขาอ่างฤาไนที่มีชื่อเสียงทำร้ายมานับไม่ถ้วน ที่มีท่าทีเมินเฉยกับผู้ที่พบเห็น หลายคนรู้ยิ่งเพิ่มความกลัวขึ้นไปอีกและภาวนาขออย่าให้พบเจอกับสีดอโหนกเด็ดขาด
            นายวารินทร์ เตียงงา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.ลาดตะเคียน กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีค้นพบเห็นช้างป่าตัวใหญ่กำลังเดินข้ามถนนเทศสระบัว แล้วเดินลงเข้าไปในป่าข้าวโพดริมทางกระทั่งช่วงสายที่ผ่านมา มีคนพบเห็นช้างป่าตัวใหญ่ยืนอยู่ในป่าข้าวโพด และแจ้งให้ตนทราบและให้ออกสำรวจดูช้างตัวดังกล่าว ว่ายังอยู่ใกล้แหล่งชุมชนหรือไม่เกรงว่าผู้ที่ไม่รู้จะออกไปไล่ไปสวน อาจพบเจอกับช้างป่าซึ่งอาจจะอันตราย เพราะช้างป่าที่พบเห็นนั้นจะออกเดินทั้งกลางวันกลางคืน โดยพบเห็นในหมู่บ้านระแวกใกล้เคียงกันเป็นเดือน
             นายวารินทร์ เตียงงา กล่าวว่า นี่คือผลงานของช้างป่าที่เข้ามาในไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน ซึ่งข้าวโพดใกล้จะเก็บผลผลิตแล้วแต่ช้างเข้ามากัดกินเหยียบย่ำทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าของไร่ข้าวโพด จะต้องมาหาเก็บเอง ซึ่งไม่สามารถใช้รถเกี่ยวเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ถูกช้างเดินเหยียบย่ำลงดิน ไม่ทราบว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพราะไม่กล้าเดินเข้าไปสำรวจดูอย่างละเอียดในป่าข้าวโพดได้ เกรงว่าอาจจะเดินไปพบช้างซ่อนอยู่ในป่าข้าวโพด หรือชายป่าข้าวโพดอาจจะได้รับอันตราย
            อยากให้ทางเจ้าหน้าที่อนุอนุรักษ์มาทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่แหล่งชุมชนโดยเร็ว ซึ่งได้รับรายงานว่านอกจากช้างป่าตัวใหญ่ที่พบเห็นไม่แน่ใจว่าใช่สีดอโหนกตามที่ชาวบ้านหลายคนพูดมาหรือไม่ และยังทราบว่ายังมีช้างป่าอย่างน้อยอีก 2 ตัวอยู่ในละแวกเดียวกันอีกด้วย ซึ่งขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าอ่างฤาไนร่วมกันผลักดันช้างป่าอีกจำนวนหนึ่งในพื้นที่รอยต่อเขาไม้แก้วเขาจันทร์อย่างต่อเนื่อง