ประจวบคีรีขันธ์-ตำรวจน้ำ ศรชล กู้ศพลอยน่านน้ำปากน้ำปราณ ห่างฝั่ง 31 กิโลเมตร..!!

ประจวบคีรีขันธ์-ตำรวจน้ำ ศรชล กู้ศพลอยน่านน้ำปากน้ำปราณ ห่างฝั่ง 31 กิโลเมตร..!!

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

           ตำรวจน้ำ ศรชล กู้ภัยฯ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ร่วมปฏิบัติการนำเรือตำรวจน้ำออกค้นหาศพลอยน้ำ หลังจากที่มีเรือประมงเห็นศพลอยอยู่หน้าทะเลปากน้ำปราณห่างฝั่ง 17 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นกรณีที่ลูกสาวได้โพสต์ลงเฟสบุซ แจ้งบิดาตกน้ำทะเลสูญหายใครพบช่วยแจ้ง แต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดยังไม่พบ

           เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันที่ 12 พ.ย.67 นาวาเอก เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เทพรัตน์ ถมฉิมพลี สารวัตร ส.รน. 5 กก.4 บก.รน. พ.ต.ต.ทวี แสงมุข สารวัตรประจำ บก.รน.เจ้าหน้าที่ประสานงานความมั่นคงท่าเรือจังหวัดประจวบฯ ร.ต.อ.บัลลังก์ บุญพิทักษ์โยธิน รองสารวัตรหัวหน้าเรือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือตำรวจน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี สนธิกำลังร่วมกันนำเรือตรวจการณ์ 527 ของสถานีตำรวจน้ำปากน้ำปราณ ออกเก็บกู้ศพลอยน้ำบริเวณน่านน้ำอ่าวปากน้ำปราณ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 17 ไมล์ทะเล หรือ 31.484 กิโลเมตร หลังจากได้รับแจ้งจากไต๋เรือพัสวี 9 ซึ่งเป็นเรือประมงที่เป็นผู้พบเจอศพลอยน้ำขณะล่องเรือทำการประมงอยู่ในทะเล โดยศพดังกล่าวสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าตกจากปากอ่าวมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร
              โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวได้ประกาศตามหาบิดา ซึ่งพลัดตกจากเรือสูญหาย โดยฝากประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวไปถึงหน่วยกู้ภัยในหลายๆท้องที่ และเมื่อ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพจทีมกู้ภัยสว่างสรรเพชรได้ลงภาพบุคคลสูญหาย โดยระบุว่าข้อมูลจากลูกสาวคนหายพลัดตกจากเรือสูญหาย เมื่อวันที่ 5 พ.ย.67 เวลาประมาณ 19.10 น.ที่ผ่านมา โดยบุคคลที่สูญหาย ชื่อ นายสมปอง เที่ยงเล อายุ 51 ปี ซึ่งได้ตกจากเรือภายในทะเลซึ่งเป็นเรือขุดนำร่องเรือใหญ่ในขณะที่เรือทิ้งสมออยู่ตรงวัดบางหญ้าแพรก อ่าวท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งในขณะนั้นได้สวมใส่ชุดหมีสีส้ม แต่ไม่มีเสื้อชูชีพ และกระแสน้ำทะเลได้พัดพาร่างมาทางจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งชาวประมงชาวเรือท่านใดที่พบเห็นช่วยระบบพิกัดที่พบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบด้วย
              น.ส.น้ำฝน อายุ 23 ปี บุตรสาว เปิดเผยว่า บุคคลที่สูญหายเป็นพ่อเลี้ยงของตนซึ่งมีอาชีพเป็นช่างทำงานอยู่ในเรือขุดนำร่องให้กับเรือใหญ่ กินนอนอยู่ในเรือประมาณ 2 เดือนถึงจะกลับขึ้นฝั่ง ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกงานแล้ว และได้นำเรือขุดเข้ามาทอดสมอเพื่อจอดพักผ่อน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดอาการวูบจนตกเรือ เพราะก่อนหน้านี้พ่อของตนได้บ่นให้แม่ฟังว่าเหนื่อยเพลียนอนไม่พอ เนื่องจากต้องเข้าเวรและมีงานเข้ามามาก อีกทั้งได้ลงไปซ่อมเครื่องเรือในห้องเครื่องด้านล่างของเรือ คาดว่าอากาศร้อนประกอบกับร่างกายอ่อนเพลีย จึงอาจทำให้วูบตกเรือก็เป็นได้ แต่พ่อไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แล้วว่าพบศพต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับพ่อของตน และเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการออกไปนำศพกลับเข้ามายังชายฝั่ง ซึ่งตนเองก็รอดูรูปพรรณสัณฐานจากภาพถ่ายของเจ้าหน้าที่เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพ่อของตนชัวๆ จึงจะเดินทางมาประจวบเพื่อรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
             ด้าน ร.ต.อ.บัลลังก์ รองสารวัตรหัวหน้าเรือ 527 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับการประสานจาก ศรชล.ประจวบฯ ว่าได้รับแจ้งจากไต๋เรือพัสวี 9 แจ้งว่าพบศพลอยน้ำ สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบุคคลเดียวกัน จึงได้นำกำลังพร้อมเรือออกค้นหาตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงพิกัดที่เรือประมงพบศพก็ได้นำเรือออกค้นหาในรัศมี 5 ไมล์ทะเลก็ไม่พบศพที่ลอยน้ำแต่อย่างไร ซึ่งสาเหตุที่ไม่พบ เนื่องทะเลคลื่นลมแรง น้ำเชี่ยว และที่สำคัญศพผู้ตายไม่มีการผูกไว้กับเรือปล่อยซึ่งปล่อยให้ลอยอยู่ในน้ำทะเล พร้อมทั้งได้ไปประสานไปยังเรือประมงที่จอดอยู่ในทะเลว่ามีเรือลำไหนพบศพลอยน้ำหรือไม่ก็ได้รับคำตอบไม่มีใครพบ ค้นหาอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงไม่พบ จึงได้แจ้งลูกสาวผู้ตายแล้วว่าการค้นหาไม่พบศพบิดาแต่อย่างใด จึงได้ยุติการค้นหากลับที่ตั้ง

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!