นครปฐม-จัดงานวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจาอุบัติเหตุทางถนน
ภาพ-ข่าว:บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
จังหวัดนครปฐม จัดงานวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนถนน เพื่อให้ถนนทุกสายในจังหวัดเป็น “ถนนปลอดเหตุ ชีวิตปลอดภัย” ตลอดเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต สร้างความตระหนักถึงผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม ความจำเป็นในการดูแลช่วยเหลือหลังประสบอุบัติเหตุ
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.00 น. ที่หอประชุมสมาคมผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครนครปฐม ถนนราชดำริห์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม นายปรีชา ดิลกพรเมธีย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเพื่อให้ถนนทุกสายในจังหวัดเป็น “ถนนปลอดเหตุ ชีวิตปลอดภัย”
โดยนายฐิติพงศ์ วัฒนาอนันต์กุล นายกสโมสรโรตารีนครปฐม กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย กับองค์การอนามัยโลกด้านความปลอดภัยทางถนน โรตารีประเทศไทยและหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมจัดกอจกรรมรณรงค์เนื่องในวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2567 โดยจัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ
ประเทศไทย มีการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนสูงติดอันดับโลกมากว่าสิบปี แม้ช่วง 5 ปีหลัง จะมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ในปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 17,498 คน คิดเป็น 26.86 คนต่อแสนประชากร ในร้อยละ 82.5 ของการเสียชีวิต อยู่ในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีอัตราการสวมหมวกนิรภัยเฉลี่ยเพียงร้อยละ 43 การบาดเจ็บและเสียชีวิตเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ถึงร้อยละ 40
ทั้งนี้ โรตารีนครปฐม ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครปฐม โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม สถานศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การกล่าวรำลึกและไว้อาลัยแก่ผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน การมอบหมวกนิรภัยให้แก่ผู้แทนโรงเรียน และการเดินขบวนรณรงค์ เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต และร่วมเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ยากของครอบครัวผู้สูญเสีย บาดเจ็บหรือพิการ
รวมถึงให้รับรู้ถึงภาระของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องผลพวงของอุบัติเหตุ ตำรวจ กู้ภัย แพทย์ พยาบาล ต้องทำงานหนักแทบทุกวัน และสร้างความตระหนักถึงผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม ความจำเป็นในการดูแลช่วยเหลือหลังประสบอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงศักยภาพการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ให้ความสำคัญมากขึ้นในการตอบสนองต่อผู้ละเมิดกฎหมายจราจร ตลอดจนให้ทุกคนมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน อีกด้วย