อยุธยา-พม. รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ 2567
ภาพ/ข่าว:นราเอก ตันศิริ / นพดล บำเพ็ญสัตย์
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้ร่วมงาน เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
นายฐานวัฒน์ พรนิธิดลวัฒน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าที่มาของการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยมอนทริออล จำนวน 14 คนในประเทศแคนาดา โดยกลุ่มที่ทำการรณรงค์ครั้งแรกเป็นกลุ่มนักศึกษาชาย จำนวน 1 แสนคน ที่ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อสตรี และต้องการยุติปัญหาดังกล่าว จึงได้เรียกร้องให้ผู้ชายทั่วโลก ร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาความรุนแรงต่อสตรี รวมทั้งแสดงตนว่าจะไม่ทำความรุนแรงต่อสตรี โดยการติดสัญลักษณ์ริบบิ้นสีขาวที่ปกเสื้อ ซึ่งหมายถึง การยอมรับว่าจะไม่ทำร้ายหรือนิ่งเฉยต่อการใช้ความรุนแรงต่อสตรีในทุกรูปแบบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวัน “ขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล” และในประเทศไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2542 กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เพื่อมุ่งเน้นที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทั้งต่อเด็กและสตรี โดยดำเนินการการณรงค์ตลอดเดือนพฤศจิกายนให้สังคมได้ตระหนักและร่วมป้องกันขจัดความรุนแรงต่อเด็กสตรีให้หมดสิ้นไปโดยใช้สัญลักษณ์ริบบิ้นสีขาว (White Ribbon) เป็นสัญลักษณ์ผู้ชายติดเพื่อแสดงถึงการร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี โดยการ “ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อสตรี” ทุกรูปแบบแต่ปัจจุบันสัญลักษณ์นี้ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อเป็นการร่วมกันรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัว ด้วยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการรณรงค์ยุติความรุนแรงดึงกล่าวจึงได้กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัยไร้ความรุนแรง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสสังคมในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สังคมตระหนักต่อประเด็นปัญหาความรุนแรงต่อเด็กสตรี และบุคคลในครอบครัว รวมทั้งกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์สนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว
กิจกรรมในวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหลายภาคส่วนประกอบด้วย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด ผู้แทนยุติธรรมจังหวัดผู้แทนสาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้แทนโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนโรงพยาบาลเสนาผู้แทนศูนย์การค้าอยุธยาชิตี้พาร์ค หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม. หนึ่งเดียว) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และเครือข่าย ที่มาร่วมกิจกรรมงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัวตลอดจนศูนย์การค้าอยุธยาชิตี้พาร์คที่ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2567
ทางด้าน นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวมีความสำคัญ เนื่องจากสถาบันครอบครัวเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างสมาชิกในครอบครัวให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่สังคมต้องการ หากครอบครัวทำหน้าที่บกพร่องก็ย่อมจะเกิดผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวตามมา เช่น ติดสุรา ติดยาเสพติด มีพฤติกรรมก้าวร้าว การใช้ความรุนแรง เป็นต้น ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมตามมา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้จัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อน และให้ทุกคนในสังคมตระหนักรู้ และปลูกฝังมายาคติที่ถูกต้อง เป็นพลังในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวให้หมดสิ้นไป โดยบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานในระดับพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนให้การกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
การจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขปลอดภัย ไร้ความรุนแรง” ในวันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเป็นการส่งเสริม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัวในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการแสดงออกถึงการไม่ยอมรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมงานและผู้ที่เกี่ยวข้องในกิจกรรมครั้งนี้ทุกคน และขอให้การดำเนินงานในวันนี้ประสบความสำเร็จ บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ขอให้ทุกท่านที่มาร่วมงานมีพลังกาย พลังใจในการทำงาน และดำรงชีวิตต่อไป