ประจวบคีรีขันธ์-มาแล้วคู่แข่งหมูเด้ง!”เดอะ ซู คาเฟ่ (the Zoo Cafe) อวดโฉมหนูฮิปโป (หนูเด้ง)
"เกาะกระแสหมูเด้ง ดึงดูดลูกค้า"
ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
วันที่ 28 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานว่า ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเที่ยวชมที่ The Zoo Cafe ซึ่งเปิดเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองประจวบคีรีขันธ์ เลขที่ 29/1 ซอย 8 ถนนสละชีพ เขตเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หลังวัดเกาะหลัก) หลังจากทราบว่าสวนสัตว์ดังกล่าวมีสมาชิกใหม่เป็นหนูฮิปโปขนาดเล็ก หรือหนูเด้ง มาอวดโฉมให้เด็กๆและนักท่องเที่ยวได้ดูฟรี”
“โดยภายในเปิดเป็นลักษณะสวนสัตว์ขนาดเล็กมีสัตว์กว่า 10 ชนิด รวมจำนวนกว่า 100 ตัว ให้ได้ชม อาทิเช่น นกกระจอกเทศ ม้าไทย ไก่ฟ้าหลากสายพันธุ์ นกยูงอินเดีย กระต่าย แพะ นกแก้วมาคอร์ ไก่ซิลกี้ญี่ปุ่น ปลา เต่า กวางดาวอินเดีย และ ทานูกิ (แรคคูนด็อก) ซึ่งเป็นสัตว์นำโชคของญี่ปุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายกาแฟและน้ำปั่น พร้อมกับจำหน่ายอาหารสัตว์ในราคาชุดละ 20 บาท ให้กับนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา ที่สนใจเข้าไปเที่ยวชมพักผ่อนพร้อมป้อนอาหารสัตว์ โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม
แต่สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นที่สร้างจุดขายให้กับทางร้านในขณะนี้ก็คือ “หนูฮิปโปแคระ” หรือ หนูเด้ง ซึ่งทางสวนสัตว์แห่งนี้พึ่งนำเข้ามาเพิ่มเป็นสมาชิกไว้ในสวนสัตว์ได้เพียง 3 วัน โดยลำตัวลักษณะเหมือนหนู ผิวหนังเกลี้ยงเกลา สีดำ ไม่มีขน หน้าตาลักษณะคล้ายกับฮิปโป ขนาดโตเต็มวัยตัวจะใกล้เคียงกับกระต่าย เจ้าของร้านจึงตั้งชื่อให้เรียกว่า”หนูเด้ง” เพื่อเกาะกระแสหมูเด้งที่ดังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างจุดขายดึงดูดลูกค้าให้กับทางร้าน เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชม”
นายสมบูรณ์ ครุฑเผือก อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเป็นช่างอยู่โรงงานสับปะรดแห่งหนึ่ง และได้ออกจากงานมาได้ประมาณ 7 ปีแล้ว ซึ่งในขณะนั้นตนเองมีเงินเดือนประมาณ 40,000 บาท ช่วงเวลานั้นได้เลิกกับภรรยาจึงต้องออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ซึ่งพี่สาวของตนได้ถามตนว่าชอบเลี้ยงสัตว์ไหม โดยความชอบส่วนตัวตนเองเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ และชอบอยู่สไตล์แบบธรรมชาติ จึงได้เริ่มเลี้ยงสัตว์ทีละชนิด และพอเริ่มมากขึ้นจึงได้มีแนวคิดสร้างร้านกาแฟและเปิดเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก ชื่อ The Zoo Cafe พร้อมกับเปิดให้เด็กเยาวชนนักเรียนและนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเที่ยวชมได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด เพียงแต่แค่ช่วยอุดหนุนสินค้าข้างในร้าน เช่น เครื่องดื่ม ชา กาแฟ และซื้ออาหารให้กับสัตว์ที่เลี้ยงไว้ในราคาชุดละ 20 บาท เท่านั้น
ปัจจุบันเปิดร้านมาได้ประมาณ 3 ปี เปิดบริการตั้งแต่ 09.30 – 18.30 น.หยุดทุกวันจันทร์ ภายในร้านของตนมีสัตว์กว่า 100 ตัว รวมกว่า 10 ชนิด ซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสูงบางเดือนก็ขาดทุนแต่ก็มีความสุข และในขณะนี้สัตว์บางชนิดก็ได้เพาะขยายพันธุ์เอง ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มจะขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ที่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงด้วย
ปัจจุบันที่ร้านของตนเพิ่งรับสมาชิกเข้ามาใหม่ เป็นหนูสายพันธุ์ฮิปโป หรือ หนูฮิปโปแคระ หรือ หนูเด้ง ซึ่งคนอำเภอกุยบุรีได้นำมาเสนอขายให้ตน ตนเห็นว่าแปลกดีและถือโอกาสเกาะกระแสหมูฮิบโปแคระ หรือหมูเด้ง เพื่อสร้างจุดขายและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กับทางร้าน ส่วนที่มาที่ไปตนไม่ได้ถามเจ้าของเดิมว่าชื่อสายพันธุ์อะไร นำเข้ามาจากไหน หรือเป็นสัตว์ประเทศอะไรตนเห็นว่าแปลกดีจึงได้นำมาเลี้ยงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมและให้อาหาร
แต่หนูเด้งนี้ยังมีขนาดเล็กอยู่ หากโตเต็มวัยตัวอาจจะใหญ่เท่ากระต่าย หรือหนูเลี้ยงสายพันธุ์อื่นๆ สำหรับผู้สนใจสามารถเดินทางมาชมได้ โดยเริ่มต้นจากวัดเกาะหลัก ขับรถมาตามถนนเลียบกำแพงวัด พอถึงโค้งทาง 3 แยกก็ให้เลี้ยวมาประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงที่หมาย นายสมบูรณ์ กล่าว ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หนูฮิปโปแคระ เป็นหนูตะเภาสายพันธุ์พิเศษ (Cavia porcellus) ได้รับความสนใจเนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น หนูฮิปโปแคระนั้นแตกต่างจากหนูตะเภาทั่วไปตรงที่ไม่มีขน โดยมีเพียงขนเบาบางบนบางส่วนของร่างกาย เช่น จมูก เท้า และหลังเล็กน้อย สายพันธุ์นี้เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ทำให้พวกเขาขาดขนจำนวนมาก ทำให้มองเห็นผิวหนังได้ มักมีรอยย่นหรือมีลักษณะเป็นหนังเล็กน้อย สีผิวของพวกมันอาจแตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม และไม่มีขนที่ปกคลุมเหมือนกับหนูตะเภาส่วนใหญ่