ปราจีนบุรี-ตำรวจเก็บภาพวงจรปิดทั้งในและนอกบ้าน ตั้ง 3 ปมควานหาความจริงชนวนดับ สจ.โต้ง
ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
ตำรวจไล่เก็บภาพและเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดทั่วทั้งในและนอกตัวบ้านพักโกทร หลังพบมีการยิงตอบโต้กันกับกลุ่มคนภายนอกผู้ติดตาม สจ.ดังด้วย ตั้ง 3 ปมหลักควานหาความจริงเปิดชนวนดับ สจ.โต้ง ก่อนเตรียมส่งตัวฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 7 รุ่งเช้าวันพรุ่งนี้หลังควบคุมครบ 48 ชม. เผยนาทีเข้าควบคุมสถานการณ์ มีการเจรจาต่อรองหลังเกิดเหตุจนอีกฝ่ายยอมวางอาวุธปล่อยให้ จนท.เข้าไปในพื้นที่เมื่อคืนที่ผ่านมา
วันที่ 12 ธ.ค.67 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สมประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก. ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ในขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.20 น. (11 ธ.ค.67) ตนเองพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.เมืองปราจีนบุรี ได้เข้าไปยังในที่เกิดเหตุในช่วงระหว่างมีการปิดล้อม และได้ทำหน้าที่เป็นทีมเจรจาต่อรองด้วยตนเอง และได้พูดคุยกับคนยิง โดยใช้วิธีการสื่อสารเข้าไปว่าเราจะให้ความปลอดภัยกับเขา เราจะให้ความเป็นธรรมกับเขา และได้ขอให้เอาคนเจ็บออกมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ในเวลานั้นยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต
จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยอมให้ทีมแรกเข้าไป คือ ทีมของตนและทีมของ ผกก.เมืองปราจีนบุรี ทีมชุด นปพ.พร้อมอาวุธ และเจรจากับเขาจนยอมวางอาวุธ จนสถานการณ์คลี่คลายและได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งในบ้านมีชายฉกรรจ์อยู่ 6 คน และมีนายสุนทร วิลาวัลย์ พร้อมสมาชิกในครอบครัวอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ โดยพบศพของ สจ.โต้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 แต่จุดที่เริ่มยิงนั้นเริ่มมาจากชั้น 2 แล้วตกลงมา โดยมีคนยิง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ยิง
ส่วนประเด็นในเรื่องของการทำคดีนี้ ได้ตั้งไว้แบบกว้างๆ ก่อนรวม 3 ประเด็น คือ เรื่องของการทะเลาะกันมาก่อนแต่ดั้งเดิม เรื่องที่ 2 คือเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะถึงนี้ ก็อาจะมีการพูดคุยกันและไม่ลงรอยกัน เรื่องที่ 3 เป็นเหตุซึ่งหน้า ที่อาจจะมีการขู่ทำร้ายกันในขณะนั้น ส่งผลให้กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง โดยทั้ง 3 ประเด็นยังไม่ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่งและจะเก็บทั้ง 3 ประเด็นไว้เป็นประเด็นในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 2 กองบังคับการ ภ.จว.ปราจีนบุรี และสภ.เมืองปราจีนบุรี จะดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรมโปร่งใส และจะเร่งรัดปรามปรามในเรื่องของอาวุธปืน อาวุธสงคราม กระสุนปืนวัตถุระเบิดอย่างเคร่งคัด เพื่อความผาสุกของประชาชน วันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้ง 7 คนรวมถึงนายสุนทร วิลาวัลย์ ด้วยคือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ส่วนความคืบหน้าของการสอบสวนนั้น ได้สอบปากคำไปแล้วจำนวน 6 คนและสอบพยานไปแล้วทั้งหมด 3 ปากและยังพบว่ายังคงมีพยานอื่นๆ อีกมาก รวมถึงพยานแวดล้อมด้วยที่ยังมีอีกมาก จนถึงตอนนี้สอบไปแล้ว 4 ปาก ซึ่งหลังจากมีการประชุมสรุปสถานการณ์ในบ่ายวันนี้แล้ว ในเวลา 17.00 น.จะมีการแถลงถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำอีกครั้ง โดยทางด้านผู้บังคับบัญชาได้สั่งการมาในเรื่องของงานสืบสวน งานสอบสวนให้ดำเนินการแบ่งทีมกันสอบ และวางประเด็นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประเด็นในเรื่องของงานสืบได้สั่งการให้ดำเนินการไปเก็บกล้อง เก็บภาพและหาพยานที่เกี่ยวข้องมาทำเป็นไทม์ไลน์ ว่ามีใครเข้าออกไปยังภายในบ้านหลังนั้นบ้าง เพื่อนำมาสร้างให้เกิดความเป็นธรรม ให้ตรงกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงสู่สังคมให้ได้รับทราบ ในส่วนของงานป้องกันและปราบปราม ได้มีการดำเนินการกำหนดจุด ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซ้อน และมีการตรวจค้นอาวุธปืน เน้นย้ำในเรื่องของอาวุธปืนอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดกระสุนปืน โดยจะมีการเข้มงวดกันต่อไป
ขณะนี้ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 7 คนได้มาร่วมฟังการสอบสวนทั้งหมด โดยเฉพาะนายสุนทร นั้น ได้มีทนายส่วนตัวมาร่วมรับฟังด้วย ส่วนผู้ต้องหาอื่นจะมีทนายต่างๆ ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี จัดหามาให้อย่างเรียบร้อย ยังเหลือเพียงผู้ต้องหาอีก 1 ราย ซึ่งเป็นความคืบหน้าในขณะนี้ โดยทาง ภ.จว.ปราจีนบุรี และสภ.เมืองปราจีนบุรี ได้พิจารณาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนในคดีนี้
เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล และมีการดำเนินการโดยใช้อาวุธ จากการตรวจสอบและค้นที่บ้านยังพบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น มีจำนวน 2 ขนาดด้วยกัน คือ ขนาด 9 มม. และกระสุนปืนลูกซองที่ยิง สจ.โต้ง จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.สมประสงค์ กล่าว