ราชบุรี-สภ.โพธารามชี้แจงกรณีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายขณะนอนเฝ้าลูกสาววัย 5 เดือน ที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ รพ.
ภาพ-ข่าว: ประทีป อยู่แช่ม
ตามที่ปรากฏข่าวทีวีช่องหนึ่งจากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์เรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค เป็นหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายขณะนอนเฝ้าลูกสาววัย 5 เดือน ที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.ราชบุรี นั้น ทาง พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม จึงทำการตรวจสอบข้อมูล ได้ความว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.หญิง ธนพร มัตสยะวนิชกูล พนักงานสอบสวน เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ ได้มีนายศุภเสกย์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้มาแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ในวันเดียวกัน (8ม.ค.68) เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ นายศุภเสกย์ และนางสาวจรัญญา เกี่ยวข้องเป็นภรรยาโดยจดทะเบียนสมรสกัน อยู่ที่ตึกเด็กโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ได้มีปากเสียงทะเลาะกัน เรื่องเงินและเรื่องที่ นายศุกเสกย์ฯ จะไปทำงาน ไม่ยอมช่วยเฝ้าลูกสาวที่ป่วย น.ส.จรัญญาฯ จึงบอกแก่ นายศุภเศกย์ฯ ว่า ถ้าจะไปทำงานให้นำเงินค่าดูแลและรักษาลูกมาให้ แต่ นายศุกเสกย์ฯ ไม่ยอมให้เงินและจะไปทำงาน จึงเกิดการทะเลาะกัน และ น.ส.จรัญญาฯ ได้มีการเข้าไปยื้อแย่งลูกกุญแจรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวอยู่บริเวณสะโพกสามีไป และขณะนั้น น.ส.จรัญญาฯ ได้กัดที่บริเวณฝ่ามือขวาของ นายศุภเสกย์ฯ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้น นายศุภเสกย์ฯ พร้อมด้วยมารดาของตนเอง ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนโดย นายศุภเสกย์ฯ แจ้งว่า ถูก น.ส.จรัญญาฯ ทำร้ายร่างกาย และมารดาของนายศุภเสกย์ฯ แจ้งว่า ถูก น.ส.จรัญญาฯ ขโมยรถจักรยานยนต์ไป เนื่องจาก น.ส.จรัญญาฯ ได้มีการนำรถจักรยานยนต์ไปใช้งาน รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมีมารดาของนายศุภเสกต์เป็นผู้ครอบครอง แต่ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนได้ จึงได้มีการตรวจสอบดูร่องรอยบาดแผลเบื้องต้น พบว่ามีร่องรอยบาดแผลเล็กน้อย และได้แจ้งแก่มารดาของนายศุภเสกย์ฯ ว่าขอรายละเอียดของข้อมูลรถจักรยานยนต์อันเป็นสาระสำคัญของการดำเนินการสอบสวน และมารดาของนายศูุภเสกย์ฯ จะกลับไปนำเอกสารข้อมูลรถจักรยานยนต์มา เพื่อสามารถให้รายละเอียดได้ แต่นายศุกเสกย์ฯ ก็ได้กลับไปพร้อมกับมารดา และรอการมาพบเพื่อดำเนินการต่อไป
ต่อมา เวลา 20.53 วันเดียวกัน ได้มี น.ส.จรัญญา อายุ 23 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พลาญชัย ชัยชนะ พนักงานสอบสวน ว่า เมื่อวันที่ 8 มค.68 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ น.ส.จรัญญาฯ อยู่ที่ตึกเด็ก รพ.แห่งหนึ่ง ได้มีปากเสียงกับ นายศุกเสกย์ เกี่ยวข้องเป็นสามีภรรยาโดยจดทะเบียนสมรสกัน และ นายศุภเสกย์ฯ ได้เข้ามาบีบคอ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนจึงได้สอบถามอาการบาดเจ็บและประเมินความพร้อมเพื่อจะดำเนินการสอบสวนปากคำให้การและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่า น.ส.จรัญญาฯ มีความกังวลในการเฝ้าอาการลูกที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ รพ. จึงได้ส่งตัวไปตรวจชันสูตรบาดแผลก่อน และนัดหมายเพื่อมาให้การและดำเนินการสอบสวนต่อไป
โดยคดีดังกล่าว เป็นเรื่องสามีภรรยาทะเลาะเบาะแว้งและทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ซึ่งเข้าข่ายเป็นคดีความรุนแรงในครอบครัว และจากการประเมินบาดแผลของ น.ส.จรัญญาฯ สามารถนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ตาม มาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ข้อพิพาท พ.ศ.2562 ได้ ประกอบกับคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเกี่ยวข้องเป็นสามีและภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันโดยจะทำการสอบสวนปากคำให้การคู่กรณี เพื่อให้ทราบความประสงค์และยินยอมนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยต่อไป