ประจวบคีรีขันธ์-ชาวประมงพื้นบ้านทับสะแกกว่า100ลำเดือดร้อนหนัก

ประจวบคีรีขันธ์-ชาวประมงพื้นบ้านทับสะแกกว่า100ลำเดือดร้อนหนัก

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก)

        ชาวประมงพื้นบ้านทับสะแกกว่า100ลำเดือดร้อนหนัก ถูกนายทุนต่างถิ่นเพียงคนเดียวค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายปิดทางเข้า-ออกคลอง

          วันที่ 22 ส.ค.62 นายภาคภูมิ ศิริสุรักษ์ ประธานประมงท้องถิ่นพื้นบ้านห้วยยาง พร้อมด้วย นายกฤษฎา ศรีทอง ประธานประมงท้องถิ่นเรือไดหมึกอำเภอทับสะแก และ ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งในเขตอำเภอทับสะแก ประมาณ 40 คน รวมตัวเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบ เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบช่วยเหลือ พร้อมกับยื่นหนังสือกับนาย วรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 และ ยื่นหนังสือกับสำนักงานกรมเจ้าท่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือตรวจสอบในกรณีถูกคัดค้านจากนายทุนเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่เข้ามาซื้อที่ดินในหมู่บ้าน และคอยคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนกันทรายปากคลองห้วยยางในพื้นที่หมู่ที่ 7 ชายทะเลห้วยยาง ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยอ้างว่าเขื่อนกันคลื่นทำให้บดบังทัศนียภาพที่ดินของตนเองด้านชายทะเล โดยที่ไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงทำให้การก่อสร้างถูกระงับ และล่าช้าจวนจะครบ 4 ปี

            นายภาคภูมิ ประธานประมงท้องถิ่นพื้นบ้านห้วยยาง เปิดเผยว่า เรื่องโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายปากคลองห้วยยางได้ดำเนินการและตั้งงบประมาณต่างๆแล้วมีการทำ อีไอเอ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในรัศมี 5 กิโลเมตรผ่านไปแล้ว การทำประชาคมและประชาพิจารณ์ผ่านไปแล้ว ซึ่งมีผู้คัดค้านเพียงรายเดียวโดยเป็นนายทุนต่างถิ่นเข้ามาซื้อที่ดินบริเวณที่จะมีโครงการก่อสร้าง โดยอ้างว่าจะทำให้ทัศนียภาพในที่ดินของตนเองไม่สวยงาม ซึ่งในปัจจุบันที่ดินดังกล่าวก็ยังไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างใดๆเลย เป็นที่ดินว่างเปล่า และเมื่อมีการประชุม หรือมีการทำประชาพิจารณ์ นายทุนบุคคลดังกล่าวก็ไม่เคยเข้ามามีส่วนร่วม จึงทำให้เกิดความล่าช้าออกไป และชาวบ้านเกรงว่าหากสิ้นปีงบประมาณจะต้องมีการทำ อีไอเอ ใหม่อีก ซึ่งจะทำให้ล่าช้าไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านซึ่งมีอาชีพประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากทรายที่เข้ามาปิดปากคลองห้วยยาง จนไม่สามารถนำเรือเข้า-ออก เพื่อทำการประมง และไม่สามารถนำเรือเข้ามาหลบคลื่นลมเวลามีคลื่นมรสุมได้ ต้องแล่นเรือไปอาศัยหลบคลื่นลมที่บ้านคลองวาฬ หรือบ้านกรูดแทน

              ด้านนายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลฯ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้รับทราบเรื่องราวแล้วและจะได้นำปัญหาดังกล่าวส่งให้ส่วนที่รับผิดชอบ พร้อมกับช่วยติดตามและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่าซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เข้าดำเนินการและศึกษารายละเอียดเพื่อเข้าช่วยเหลือแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยในเบื้องต้นทราบว่าขั้นตอนทุกอย่างได้ดำเนินการมาอย่างถูกต้องและครบถ้วนหมดแล้ว แต่ติดปัญหามีเพียงผู้คัดค้านเพียงรายเดียว ซึ่งก็ได้แนะนำชาวบ้านให้มีการเปิดประชุมทำประชาพิจารณ์อีกครั้ง โดยให้ทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ เชิญเจ้าของที่ดินที่มีปัญหาการคัดค้านดังกล่าวมาเข้าร่วมประชุมด้วย และถ้าหากไม่มาเข้าร่วมก็ถือว่ายินยอม และสละสิทธิ์ในการคัดค้านโครงการดังกล่าวก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ก็สามารถเริ่มโครงการก่อสร้างได้ตามปกติ

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!