ราชบุรี-ด.ญ.11 ขวบ อาศัยที่รัฐอยู่กับแม่ป่วย เขียน จ.ม.วอนทหารช่วยเหลือ

ราชบุรี-ด.ญ.11 ขวบ อาศัยที่รัฐอยู่กับแม่ป่วย เขียน จ.ม.วอนทหารช่วยเหลือ

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

  ด.ญ.11 ขวบ อาศัยที่รัฐอยู่กับแม่ป่วย เขียน จ.ม.วอนทหารช่วยเหลือ

              วันที่ 23 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.จันทร์ การดี ว่า มีเด็กหญิงวัย 11 ขวบ อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยทำงานไม่ได้ อาศัยพื้นที่ของเทศบาลเมืองราชบุรีปลูกบ้านอยู่อาศัย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้พังหลังคารั่วพื้นบ้านหักเทจนแทบอาศัยอยู่ไม่ได้ แต่ไม่สามารถซ่อมแซมได้เพราะฐานะยากจน แถมเด็กหญิงและแม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะทั้งตัวเงินตัวทองและงูนาๆชนิดแวะเวียนมาขออาศัยอยู่ด้วยตลอด จนเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ทนสงสารแม่ไม่ไหวเคยเขียนจดหมายถึงกรมการทหารช่าง เพื่อขอให้ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้แต่ไม่กล้านำไปส่งเพราะกลัวโดนว่า หลังได้รับรู้เรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ภายในซอยชาวดิน ซอย 3 อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงได้พบนางปิยนันท์ ฉิมไพบูลย์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ญ.ธิดารัตน์ (หรือน้องเมย์) อุ่นน้อย อายุ 11 ปี ซึ่งบ้านดังกล่าวมีสภาพไม่น่าอยู่อาศัยได้ เนื่องจากหลังคารั่วทั้งหลัง ส่วนพื้นบ้านด้านหลังก็หักเทจนเกือบติดพื้นดิน ส่วนข้าวของภายในบ้านก็มีแค่เสื้อผ้า กับพัดลมเก่าๆ และตู้เย็นที่ใช้การไม่ได้ ซึ่งเพื่อนบ้านได้ให้มา
               จากการสอบถาม นางปิยนันท์ ได้เล่าให้ฟังว่า บ้านหลังดังกล่าวตนได้อาศัยพื้นที่ขนาด 4×2.8 เมตร ของเทศบาลเมืองราชบุรี ปลูกบ้านอาศัยอยู่มากว่า 30 ปีมาแล้ว ซึ่งทางเทศบาลเมืองราชบุรีได้อนุญาติให้ปลูกอาศัยอยู่ได้ ชาวบ้านในชุมชนจึงได้ร่วมใจนำไม้มาปลูกบ้านเป็นเพิงหมาแหงนให้ตนอาศัยอยู่เนื่องจากสงสาร เพราะตนมีฐานะยากจน โดยบ้านหลังดังกล่าวไม่มีห้องน้ำและไม่มีไฟฟ้า ซึ่งตนต้องอาศัยเข้าห้องน้ำจากเพื่อนบ้านในชุมชน ส่วนไฟฟ้าก็ใช้จากเพื่อนบ้าน ซึ่งตนได้ช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าให้ โดยก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละ 200 – 300 บาท แต่ก็ได้ไม่แน่นอนทุกวัน และเมื่อ 13 ปีก่อน ตนได้พบรักกับชายสูงอายุกว่าตนจนมีน้องเมย์ โดยหลังที่ตนคลอดน้องเมย์ ออกมาได้ 1 ปี สามีก็ได้บอกว่าจะออกไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าไปทำงานที่ไหนและสามีก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้าน ตนจึงต้องเลี้ยงน้องเมย์ เพียงลำพัง และเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ตนได้ป่วยเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคความดันสูงกับโรคเบาหวาน ทำให้ตนไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมีอาการหน้ามืดตลอดเวลาจึงไม่มีใครจ้างทำงาน ทำให้น้องเมย์ ต้องออกไปรับจ้างภายในชุมชนหลังกลับจากเรียนหนังสือ โดยไปล้างจานบ้าง ตัดกระดาษบ้าง ทำความสะอาดบ้าง เพื่อหาเงินไปเรียนหนังสือและนำเงินมาเลี้ยงตน ส่วนบ้านที่ตนกับน้องเมย์อาศัยอยู่นั้น เกิดพังเสียหายเกือบทั้งหลังแต่ก็ไม่มีเงินซ่อมแซม จึงจำต้องอาศัยอยู่แบบนั้น ซึ่งทุกวันนี้ตนกับน้องเมย์ อยู่อย่างลำบากมาก เพราะบ้านที่ตนกับน้องเมย์อาศัยอยู่นั้น มักจะมีงูเขียว งูเห่า งูเหลือ และตัวเงินตัวทอง เข้ามาภายในบ้านที่ตนกับน้องเมย์อาศัยหลับนอนอยู่เป็นประจำ จนชาวบ้านในชุมชนอดที่จะสงสารไม่ได้ จึงได้เอาเรื่องราวของตนกับน้องเมย์ ไปเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง เพื่อขอให้มาช่วยเหลือตนกับน้องเมย์
                 นางปิยนันท์ ยังเล่าอีกว่า ชาวบ้านในชุมชนเคยแนะนำให้ไปขอความช่วยเหลือจากส่วนงานราชการ แต่ตนไม่กล้าเพราะเนื่องจากทุกวันนี้ตนก็อาศัยที่ของเทศบาลเมืองราชบุรีอยู่อาศัย ตนจึงคิดว่าเทศบาลเมืองราชบุรีได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว และตนยังกลัวทำให้หน่วยงานราชการได้รับความเดือดร้อนตนจึงอาศัยอยู่แบบนั้น โดยไม่คิดที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนน้องเมย์ มีอายุ 10 ขวบ น้องเมย์ ได้บ่นกับตนว่า “สงสารแม่อยากช่วยเหลือแม่ อยากให้แม่อยู่อย่างสบาย” พร้อมกับได้ยื่นกระดาษที่เขียนจดหมายถึงกรมการทหารช่าง ซึ่งมีข้อความว่า “ทหารจร้า ช่วยหนูกับแม่ด้วย ช่วยซ่อมแซมบ้านให้หนูหน่วย แม่หนูลำบากมาก” และน้องเมย์ได้บอกกับตนว่า จะให้ลุงข้างบ้านพาน้องเมย์ ไปส่งจดหมายที่ค่ายทหาร แต่เมื่อลุงข้างบ้านจะพาไปจริงๆ น้องเมย์กับไม่กล้าเพราะกลัวจะโดนว่า
                   ด.ญ.ธิดารัตน์ (หรือน้องเมย์) ได้บอกว่า ทุกวันนี้หนูได้เรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.5 ที่โรงเรียนเทศบาล 4 วัดมหาธาตุ โดยลุงข้างบ้านจะช่วยไปส่งให้ที่โรงเรียน ซึ่งหนูจะหาเงินไปเรียนหนังสือเอง แต่ถ้าวันไหนไม่มีเงินไปเรียนหนังสือจริงๆก็จะไปขอยาย ซึ่งยายก็จะให้ช่วยทำงานเพื่อแลกกับเงินไปเรียนหนังสือ ทุกวันนี้หนูกับแม่อยู่กันด้วยความลำบาก แต่ก็ได้ยายช่วยเหลือ ซึ่งยายจะคอยให้ข้าวหนูกับแม่กินเกือบทุกวัน ส่วนบ้านซึ่งเคยพังแล้วครั้งหนึ่งลุงข้างบ้านก็มาช่วยซ่อมแซมให้ แต่ครั้งนี้ลุงช่วยซ่อมบ้านให้ได้เพราะมันพังมากเกินไป ส่วนเวลานอนหนูกับแม่ไม่ได้กางมุ้งนอนเพราะไม่มี หนูต้องใช้ยากันยุงจุดป้องกันเอา ซึ่งที่บ้านจะมีงูเข้ามาบ่อยครั้ง หนูก็รู้สึกกลัวเช่นกัน “ส่วนสิ่งที่หนูอยากได้ คืออยากให้มีคนมาช่วยซ่อมแซมบ้านให้หนูกับแม่ แค่พออยู่ได้ก็ยังดี ซึ่งหนูเคยคิดที่จะเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือจากกรมการทหารช่าง แต่หนูก็ไม่กล้า”
                   ด้าน น.ส.จันทร์ การดี อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/332 ซอยชาวดิน ซ.3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นคนช่วยเหลือดูแลน้องเมย์ กับแม่ ได้บอกว่า ตนได้ไปขอความช่วยเหลือนักข่าว ให้มาช่วยน้องเมย์กับแม่ ซึ่งบ้านพังและมีงูกับตัวเงินตัวทองเข้ามาในบ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบ้างครั้งเข้ามาตอนกลางคืน ทำให้น้องเมย์กับแม่ นอนไม่ได้ต้องออกมานอนข้างนอก ตนเกรงว่าน้องเมย์กับแม่ จะได้รับอันตรายจึงขอให้นักข่าวเข้ามาช่วยทำข่าวน้องเมย์กับแม่ ซึ่งตนอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือน้องเมย์กับแม่ เพราะที่ผ่านมาคนในชุมชนก็คอยช่วยเหลือน้องเมย์กับแม่มาโดยตลอด แต่เรื่องในการซ่อมแซมบ้านให้น้องเมย์กับแม่ คนในชุมชนไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากฐานะยากจนเช่นกัน

                     สำหรับผู้ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.ธิดารัตน์ (หรือน้องเมย์) สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 091-2487010 นางปิยนันท์ ฉิมไพบูลย์ หรือโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดราชบุรี เลขที่บัญชี 737-0-1075-9 ชื่อบัญชี น.ส.จันทร์ การดี

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!