ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านเดือดร้อนไม่สามารถ ออกโฉนดที่ดินได้

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

       ชาวบ้านอ่าวน้อย 12 หมู่บ้าน กว่าพันครัวเรือน เดือดร้อนไม่สามารถนำเอกสาร น.ค.3 ออกโฉนดที่ดินได้ ติดขัดที่ทับซ้อน สหกรณ์นิคมกับกรมป่าไม้

         วันที่ 30 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรวบ เปรมประสิทธิ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านในเขตนิคมสร้างตนเอง ได้มาอยู่ทำกันกันตั้งแต่สมัยปี 2500 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อพยพคนขับรถรับจ้างสามล้อ ในกรุงเทพฯมาจัดหาที่ดินทำกินให้และประกาศเป็นเขตนิคมสร้างตนเองอ่าวน้อย มีทั้งหมด 12 หมู่บ้านกว่า 1,000 ครัวเรือน โดยประกอบอาชีพการเกษตร ปลูกมะม่วง ขนุน มะพร้าว สับปะรด หรือยางพารา และพืชอื่นๆรวมทั้งเลี้ยงปศุสัตว์
          โดยคนไหนที่อยู่ได้ 5 ปี ได้รับบรรจุเข้าเป็นสมาชิกแล้วและได้เอกสาร นค.1 เมื่ออยู่ครอบ 10 ปี ได้เอกสาร น.ค.3 หลังจากนั้น สามารถไปยื่นขอออกโฉนดที่ดินได้ ปัจจุบันชาวบ้านบางส่วนได้รับโฉนดจากกรมที่ดินไปแล้ว แต่ต่อมาชาวบ้าน ไม่สามารถนำไปออกได้อีก กรมที่ดินให้เหตุผลว่า เป็นที่ทับทับซ้อนระหว่างนิคมสร้างคนเองกับกรมป่าไม้ ที่ผ่านมาสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย ได้รวบรวมเก็บข้อมูลยื่นให้กับกรมป่าไม้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านจึงเป็นทุกข์ เพราะอยู่อาศัยกันมานานกว่า 50 ปี แต่ยังไม่มีโฉนดที่ดิน เกรงลูกหลานจะลำบาก
            นางลั่นทม งุ่ยไก่ (งุ่ยไก่) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.อ่าวน้อย เปิดเผยว่า ชาวบ้านอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายเป็นชุมชนใหญ่ มีทั้งวัด มัสยิด โรงเรียน สถานีอนามัย เพราะตั้งมานานแล้ว และขณะนี้กำลังเดือดร้อน เพราะเอกสารที่ถือ เป็น น.ค.3 ที่ยังไม่ใช้เอกสารสิทธิ์ แต่ละชื่อในเอกสาร น.ค.3 จำนวน 1 แปลงต่อ 1 คน เท่านั้น จะแบ่งแยกแปลงไม่ได้ แต่หากเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินได้ ลูกหลานรุ่นหลังจะได้ไม่ทะเลาะกันเพราะจะแบ่งให้ลูกหลาน 3 ไร่ 5 ไร่ ก็สามารถแบ่งแยกได้ ปัจจุบันจึงมีความจำเป็นที่อยากได้โฉนด เพราะจะสามารถตกถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ต่อไปได้ และเพื่อลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/