ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านเตรียมผลักดันสร้างอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู
ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
ชาวบ้านเตรียมผลักดันสร้างอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันที่ 8 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางสาวปริษา ใจเสงี่ยม ประธานกลุ่มศรัทธาท่านขุนรองปลัดชู และคณะกรรมการซึ่งมาจากผู้นำชุมชนหมู่ 1 บ้านหนองหญ้าปล้อง และหมู่ 13 บ้านทุ่งมะเม่า ให้การต้อนรับพร้อมนำคณะของนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะทำงานพรรคเพื่อไทย เดินทางไปยังชายทะเล หมู่ 13 บ้านทุ่งมะเม่า ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสักการะอนุสรณ์สถานขุนรองปลัดชู และเยี่ยมชมสถานที่โดยรอบ เพื่อศึกษาแนวทางสนับสนุน ผลักดันสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนให้มาพัฒนาร่วมกัน
ภายหลังการรับฟังข้อมูลจากกลุ่มคณะกรรมการและจากการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ทราบว่าทางกลุ่มผู้นำชุมชน ต้องการที่จะมีการสร้างอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชูขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เพื่อต้องการเชิดชูความดีงามของผู้กล้า และต้องการให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว โดยพื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 16 ไร่ สามารถที่จะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล กล่าวว่า เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อปี 2303 ก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยาให้พม่าในปี 2310 ผ่านมากว่า 250 ปี ตนเป็นลูกกุยบุรี เป็นคนประจวบฯ เห็นว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้และเสียสละของวีรชน ดังนั้นชาวประจวบคีรีขันธ์ ควรระลึกและให้ความสำคัญ ยกย่องในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวของขุนรองปลัดชู และนักรบกองอาทมาตทั้ง 400 คน ที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ เป็นที่ดินสาธารณะ เป็นสมบัติของชาติ เป็นตำแหน่งที่มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างที่เชื่อได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งเหล่าวีรชนนักรบกองอาทมาต ได้ต่อสู้กับกองทัพพม่าอย่างเด็ดเดี่ยว จนเป็นที่ล่ำลือต่อกันมาว่า “ถ้าไม่มีวีรกรรมขุนรองปลัดชู ก็คงไม่มีวีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน” จากนี้ไปตนและคณะทำงาน โดยเฉพาะนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 ประจวบคีรีขันธ์ จะร่วมกันหาทางผลักดันให้มีการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ต่อไปอีกอย่างแน่นอน
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/