ประจวบคีรีขันธ์-ร่วมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สวนเกษตร

ประจวบคีรีขันธ์-ร่วมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สวนเกษตร

ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา

      ชาวตำบลอ่าวน้อยร่วมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สวนเกษตรและโฮมสเตย์ หวังนำผลไม้ในท้องถิ่นเปิดตัวสู่ตลาดนักชิมเพื่อสุขภาพ

        วันที่ 19 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น ทำให้ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรและชาวบ้านในหลายพื้นที่ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันหาทางออกด้วยการคิดริเริ่มแผนงานการสร้างรายได้ ควบคู่กับความเจริญและการพัฒนาท้องถิ่นแบบการมีส่วนร่วมของชุมชน ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การจัดกิจกรรมสร้างความผูกพันที่ดีของคนในสังคม การจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสได้ผ่อนคลายและได้แสดงออก บนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่น รักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ที่ดี มีนายรวบ เปรมประสิทธิ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย นายวิชิต ปลั่งศรีกุล พร้อมคณะทำงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมให้การสนับสนุน


         นางลั่นทม งุ่ยไก่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้าน ก.ม.12 ต.อ่าวน้อย ให้ความเห็นว่าขณะนี้ตนและลูกบ้านอยู่ระหว่างทำโครงการเชิญชวนให้ผู้สนใจธรรมชาติมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเยี่ยมชมสวนเกษตร ทั้งสวนขนุน สวนมะม่วง สวนสับปะรด โดยคัดเลือกสวนต้นแบบ ปลูกพืชแต่ละชนิดหลากหลายสายพันธุ์และคัดเลือกแล้วว่าเหมาะสมกับพื้นที่ ได้ผลผลิตมีคุณภาพระดับส่งออกต่างประเทศ ตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส รับประทานผลสดที่สวน และยังสามารถซื้อกลับบ้านเป็นของฝาก เพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น มีเขื่อนคลองบึงให้ท่องเที่ยวพักผ่อน มีโรงสีข้าวแบบดั้งเดิมอายุหลายสิบปีซึ่งได้รับพระราชทานจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แต่ยังใช้งานได้ให้ชม นอกจากนี้ได้ชักชวนให้ชาวบ้านดัดแปลงบ้านอยู่อาศัยบางส่วนทำเป็นที่พักค้างคืนเป็นแพ็คเกจ แบบโฮมสเตย์พร้อมอาหารท้องถิ่นอีกด้วย เมื่อโครงการทั้งหมดนี้เดินหน้าได้ ตนถือว่าอย่างน้อยได้ประชาสัมพันธ์ให้มีคนทั่วไปรู้จักหมู่บ้านก.ม.12 ทำให้รู้ว่าในพื้นที่แห่งนี้ยังมีของดีๆ ให้สัมผัสได้อีกหลายอย่าง

          ที่เป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวคือ การเข้าเยี่ยมชมสวนขนุน ในพื้นที่หมู่ 9 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการเติบโตของผลดิบ ในเดือนกันยายนเป็นต้นไป คาดว่าในไร่แห่งนี้ผลผลิตจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ เป็นสวนขนุนที่ปลูกสำหรับการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ยินดีเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพร้อมรับประทานสดในสวน ซึ่งนายวิชิต ได้กล่าวเห็นด้วยในแนวทางของผู้ใหญ่บ้าน ตนยินดีสนับสนุนพร้อมจะประสานส่วนที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาส่งเสริมต่อไป จากนั้นได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมสวนเกษตรหลายแห่ง ซึ่งมีการปลูกพืชแบบผสมผสานในแปลงเดียวกัน ตั้งแต่สวนมะม่วง สวนสับปะรด และสวนยางพารา โดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ตะโกนขอให้นายวิชิต ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร ช่วยเหลือชาวสวนยางเพราะขณะนี้ราคาอยู่ที่ 3 กิโลกรัม 100 บาท

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!