ปราจีนบุรี-ลุงวัย 78 ปีบุกยื่นหนังสือร้องทุกข์ ถูกเมีย-ผกก.ฮุบที่ดิน
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
ลุงวัย 78 ปีบุกยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ ผบก.ภ.จว.ปจ. ถูกเมีย-ผกก.ฮุบที่ดินยึดครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์
วันนี้ 2 ก.ย.62 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี นายชวน วิฑูรย์ทอง อายุ 78 ปี เลขที่ 149 หมู่ 9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมนายเฉลิม เกียรติบรรจงอดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี และเพื่อนบ้าน อีกกว่า 10 คน ได้เดินทางมา ยื่นหนังสือร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี แต่ติดราชการจึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.กษิพล ศิริจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี รับเรื่องแทน โดยมี พ.ต.ท.(หญิง) รัชดาพร สว่างศรี รอง ผกก.ฝ่ายบริการ ภ.จว.ปราจีนบุรี ให้การต้อนรับที่ห้องประชุมชั้น 3
นายชวน กล่าวว่า “มายื่นเรื่องร้องทุกข์ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าราชการตำรวจ และบุคคลในครอบครัว คือ พ.ต.อ.ประพจน์ เทพวัตร ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ผกก.สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์”
“ โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อปี พ.ศ. 2557 ตนเอง มีเรื่องคดีความที่ดินที่ทำกิน แปลง ภบท.5 เลขที่ 148/49 ที่ดินตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จึงเดินทางไปพบ พ.ต.อ.ประพจน์ เทพวัตร ผกก.สภ.นาดี นำเรืองดังกล่าว มาปรึกษาขอความช่วยเหลือ”
“พ.ต.อ.ประพจน์ จึงได้นัดให้ตน ไปพบที่บ้านพัก หมู่บ้านทุ่งแฝก หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังเลิกงาน เวลา 17.00 น.ตนจึงเดินทางไปพบตามคำแนะนำ แล้วเล่าเรื่องว่า ตนเองมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 มี.ค.53 ได้ตกลงซื้อขายที่ดินแปลงนี้ให้นายชิติพัตรฉัตร ศิริวงศ์ โดยทำสัญญาจะซื้อจะขาย และ นัดการจ่ายเงิน เป็นการผ่อนชำระกัน 3 ปี ตนจึงส่งมอบการครอบครองที่ดินดังกล่าว ให้นายชิติพัตรฉัตรเข้าไปครอบครองทำประโยชน์ในวันทำสัญญา
ต่อมานายชิติพัตรฉัตร ผิดสัญญา ตนจึงนำคดีฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดกบินทร์บุรี และศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ในปี พ.ศ.2557 แตว่ายังมีลูกน้องนายชิติพัตรฉัตร ไม่ยอมออกจากที่ดิน โดยทั้งหมดอ้างว่าได้ซื้อที่ดินจากนายชิติพัตรฉัตรแล้ว จึงไม่ยอมออกจากที่ดิน
เมื่อไปถึงบ้านพักแล้ว พ.ต.อ.ประพจน์ จึงได้แนะนำให้ตนเอง เล่าเรืองราวต่าง ๆให้นางประกายเพ็ชร ทองศรี หรือที่เรียกกันว่าคุณนายอ้อย ซึ่งเป็นภรรยาฟัง แล้วคุณนายอ้อย แนะนำโดยออกอุบายว่า คุณนายอ้อยจะจัดทำสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง โดยอ้างว่า ตนได้ตกลงขายที่ดินแปลงนี้ให้แก่คุณนายอ้อย ซึ่งเป็นภรรยาผู้กำกับ จะใช้อำนาจในฐานะภรรยาผู้กำกับ สภ.นาดีเพื่อให้ลูกน้องนายชิติพัตรฉัตร เกรงกลัวยอมออกไปจากที่ดิน
แล้วคุณนายอ้อย ได้เข้าไปพิมพ์หนังสือสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง แล้วมาอ่านให้ตนเองฟัง แต่ตนเองเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงไม่ยอมลงชื่อในหนังสือสัญญาฉบับนั้น แล้วคุณนายอ้อยได้นำสำเนามาให้ตนเอง 1 ฉบับ ตนก็กลับบ้าน
หลังจากนั้นคุณนายอ้อยก็หายไป ต่อมาปี 2559 คุณนายอ้อยได้นำเอาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง มาก่อสร้างเพิงที่พักในที่ดินของตน ทางด้านหน้าฝั่งที่ติดกับถนน แล้วกล่าวอ้างว่าได้ซื้อที่ดินแปลงนี้แล้ว และห้ามไม่ให้ตนเองเข้าทำกินในที่ดินของตนเอง
ตนเองได้รับความเสียหาย จึงไปแจ้งความดำเนินคดีแก่นางประกายเพ็ชร (คุณนายอ้อย) แต่พนักงานสอบสวน สภ.นาดีชื่อ ร.ต.อ.เจนณรงค์ ละครรัมย์ พยายามโบกโย้ไม่ยอมรับแจ้งความ โดยให้ตนนั่งรอตั้งแต่เช้าจนบ่ายโมง แล้วจึงรับเป็นคดี สอบสวนแล้วมีคำส่งไม่ฟ้อง เนื่องจากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินผู้ใด ให้ไปฟ้องร้องทางแพ่ง ทั้ง ๆ ที่ต้นไม้ของตนที่ปลูกไว้ถูกตัดทำลายเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ตนเป็นชาวบ้านยากจน ไม่มีความรู้ใด ๆ จึงไม่รู้จะทำอย่างอย่างไร
แต่พอตน เข้าไปดายหญ้าและปลูกถั่ว ปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งได้ทำติดต่อกันมาหลายปี กลับถุกคุณนายอ้อย ไปแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สภ.นาดี พ.ต.ต.ประสิทธิ์ ภักดี แจ้งข้อหาว่าบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ดำเนินคดี กับตนเองและลูกหลาน ซึ่งขณะนี้คดี อยู่ในระหว่าง การพิจารณาของพนักงานอัยการจังหวัดกบินทร์บุรี
พ.ต.อ.กษิพล ศิริจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวชี้แจงว่า จะนำเรื่องร้องทุกข์นำเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และ ดำเนินการตรวจสอบ และชี้แจงผลการสอบสวนให้ทราบต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/