ปราจีนบุรี-หนุ่มใหญ่วัย51เดินเท้าออกจากบ้านหางานทำเลี้ยงชีพหลังแยกทางกับแฟนสาว!!

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

       หนุ่มใหญ่วัย51เดินเท้าออกจากบ้านหางานทำเลี้ยงชีพหลังแยกทางกับแฟนสาว!!

         วันนี้ 5 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีได้พบกับชายหนุ่มวัยกลางคนกำลังเดินเท้าอยู่บนริมถนนสาย304 (นาดี -กบินทร์บุรี) มุ่งหน้าสู่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บริเวณหน้าปั๊มบางจากบ้านทุ่งโพธิ์ ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สะพายกระเป๋าสีดำ โดยกำลังก้มเก็บอะไรบางอย่างจากพื้นถนนข้างทาง เป็นช่วงจังหวะผู้สื่อข่าวได้ขับรถเก๋งผ่านมาเจอ และได้จอดรถพูดคุย-สอบถามกับชายหนุ่มนิรนามดังกล่าว
         ชายหนุ่มนิรนามคนดังกล่าว บอกว่า “ก้มเก็บเงินเหรียญบาท1เหรียญ จากการสอบถามชายหนุ่มนิรนามคนดังกล่าวได้ทราบข้อมูลว่า หลังจากแยกทางกับแฟนสาว ก็ตัดสินใจมาทำงานที่ จ.ชัยภูมิ โดยทิ้งลูกๆ2คนอยู่กับญาติๆทางบ้าน ให้ดูแลและไม่เคยกลับบ้านอีกเลย เป็นเวลาหลายปี กระทั่งงาน ที่ทำอยู่แล้วเสร็จ และไม่มีงานต่อ จึงตัดสินใจเดินทางรอนแรมมาจาก จ.ชัยภูมิ กระทั่งได้มาพบผู้สื่อข่าววันนี้ ( 5พ.ย.)
         ด้วยความสงสารผู้สื่อข่าว จึงได้พาหนุ่มดังกล่าวไปทานข้าว ที่ร้านข้าวแกงยูเทิร์น ริมถนนสาย304 ในขณะที่ชายหนุ่มนิรนามเข้ามาในข้าวแกงก็ได้สั่งบะหมี่2ก้อน แต่ทางร้านบอกว่าหมี่เหลืองหมด แม่ค้าจึงทำก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กให้แทน1ชาม ด้วยความหิว ชายหนุ่มนิรนามได้นั่งทานก๋วยเตี๋ยวจนเกลี้ยงหมดชามไม่เหลือแม้แต่น้ำก้นชาม ผู้สื่อข่าวได้บอกว่า ให้สั่งเพิ่มได้นะ กินให้อิ่มไม่ต้องเกรงใจแต่ชายหนุ่มนิรนามตอบว่า อิ่มแล้วครับผมกินแค่นี้แหละ ผู้สื่อข่าวจะสั่งเพิ่มให้อีกแต่ชายหนุ่มปฏิเสธและบอกว่าอิ่มแล้วครับ อย่างเกรงใจ
         จากการสอบถามชายหนุ่มนิรนามบอกว่า ตนเองชื่อนายรุ่งโรจน์ กิจคุณี อายุ51 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่32 ม.10 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งใจว่าจะไปหางานก่อสร้าง กับผู้รับเหมารายย่อย ที่ขาดคนงานรายวัน แต่ก็ไม่พบเห็นว่าผู้รับเหมาประกาศรับคนงานชั่วคราวรายวัน
         หรือบางทีเข้าไปสอบถามตามสถานที่ก่อสร้างต่างๆตามเส้นทางที่เดินผ่าน แต่ก็ไม่มีใครรับเพราะคนงานเต็มแล้ว จึงเดินทางพเนจรมาเรื่อยๆ เพื่อหางานทำต่อไปค่ำไหนนอนนั่น ส่วนมากอาศัยนอนตามวัด และขอข้าวก้นบาตรที่วัดกิน บางคนพบเห็นก็ได้หยิบยื่นเงินให้ เพื่อซื้อข้าวกินบางคนก็เอาขนมของกินมาให้แต่จุดมุ่งหมายของชายนิรนามก็ยังคงเดินทางหางานทำต่อไปและตั้งใจจะไปที่ จ.ปราจีนบุรี

         หลังจากรับประทานทานก๋วยเตี๋ยวอิ่มแล้ว ทางผู้สื่อข่าวได้เรียกเจ้าของร้านชื่อนางอภิญญา อินทรวัฒนา มาเก็บเงินค่าก๋วยเตี๋ยวของชายหนุ่มนิรนาม แต่นางอภิญญาได้บอกว่า ไม่ขอคิดเงินเพราะรู้สึกสงสารและอยากทำบุญกับคนที่ตกอยู่ในสภาพนี้

        ทางด้านนางอภิญญา อินทรวัฒนา กล่าวว่า ตนเองขายข้าวแกงอยู่ริมถนนสาย304 กบินทร์บุรีมานานแล้ว ถ้าเจอคนเดินทางมาแบบนี้จะเรียกให้มากินข้าวที่ร้านโดยไม่คิดเงินเป็นประจำ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้มอบเงินจำนวน500บาทให้กับนายรุ่งโรจน์ไว้ติดตัวในการเดินทางต่อไป

        ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อหาพี่สาวของหนุ่มพเนจร ตามเบอร์โทรศัพท์ที่จดไว้ด้านหลังสำเนาทะเบียนบ้าน และ ได้สอบถามนางรุ่งนภา ภูจอมจิตร พี่สาวของนายรุ่งโรจน์

        นางรุ่งนภา บอกว่า ตามที่ได้รับการบอกกล่าวจากผู้สื่อข่าว ที่พบเห็นและได้ดูภาพถ่ายที่ผู้สื่อข่าวส่งให้นางรุ่งนภา บอกว่า ชายคนดังกล่าวเป็นน้องชายของตนเองจริง ก่อนหน้านี้น้องชายมีครอบครัวแล้วและแยกทางกัน ต่อมาน้องชายไปเที่ยว และ ถูกทำร้าย สมองได้รับการกระทบกระเทือน ปัจจุบันจึงมีอาการคล้ายคนความจำเสื่อมในบางครั้ง เป็นคนพูดจาดี และ บางครั้งมักจะพูดจาเพ้อเจ้อคนเดียว และ ได้ออกจากบ้านโดยไม่บอกกล่าวทางบ้าน

       ได้ติดตามหาตัวอยู่ แต่ยังไม่ทราบข่าว ในวันนี้( 5พ.ย.) หลังจากที่ทราบข่าวจากผู้สื่อข่าวว่าพบเห็นน้องชาย รู้สึกดีใจอยากจะมารับตัวกลับ แต่ยังไม่สะดวกที่จะเดินทางมารับตัวน้องชายไม่รู้ว่าน้องจะเดินไปที่ไหนต่อ จะมีใครพบเห็นอีกหรือไม่ หรือว่าทางหน่วยงานใดที่จะนำตัวไปส่งรักษายังสถานที่ใด ตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง

         หากใครพบเห็นนายรุ่งโรจน์ เดินอยู่ตามถนนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หรือ จะมุ่งหน้าไป จ.นครนายก หรือมุ่งหน้าเข้า กทม. โปรดแจ้งมายังที่หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ 096-3599487จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/