พิษณุโลก-ชาวบ้านชมพูค้านไม่เอาเขื่อนเกรงผลกระทบ

ภาพ/ข่าว:อนุชา แก้วคำมา

           สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 4 เปิดเวทีประชาคมรับฟังความเห็นชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ถึงความต้องการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำคลองชมพู แต่ถูกชาวบ้านไม่ขอเข้าร่วมเวที หวาดระแวงไปร่วมฟังแล้วจะถูกนำไปอ้างสนับสนุนการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพูที่ชาวบ้านในพื้นที่ต้นน้ำคัดค้านมาตลอด ซึ่งจะมีปัญหาเหมือนกับโรงโม่

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดชมพู หมู่ที่ 3 บ้านชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งในวันนี้สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 4 จ.อุตรดิตถ์ ได้ร่วมกับ อ.เนินมะปราง และอบต.ชมพู นัดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านสองหมู่บ้านใน ต.ชมพู เพื่อรับฟังความเห็นในการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำคลองชมพู ที่มักจะประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และปัญหาการขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง โดยกำหนดการเปิดเวทีในเวลา 09.30 น. โดยมีนายอภิชาต ธีราภรณ์ หน.ฝ่ายก่อสร้างที่1 สำนักงานก่อสร้างชลประทาน ขนาดใหญ่ 4 จ.อุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ นายประเสริฐ บุญแม้น ปลัดอำเภอเนินมะปราง และอบต.ชมพู มาร่วมสังเกตการณ์
             แต่ปรากฏว่าชาวบ้าน ม. 1 และ ม. 3 ต.ชมพู ที่เดินทางมาที่วัดชมพูประมาณ 200 คน ไม่ยอมเข้าไปร่วมในเวทีประชาคมของอ.เนินมะปราง เนื่องจากเกรงว่า การเปิดเวทีประชาคมวันนี้ ฝ่ายราชการโดยกรมชลประทาน อาจจะนำรายชื่อและภาพถ่ายของชาวบ้านไปอ้างอิง ในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ที่อยู่เหนือหมู่บ้านไปในเขต อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง และเป็นโครงการที่ชาวบ้าน ต.ชมพูคัดค้านมาโดยตลอด ทั้งนี้ชาวบ้านได้ยืนจับกลุ่มกันโดยรอบศาลาการเปรียญ ส่วนหนึ่งร่วมชูป้ายไม่เอาเขื่อน แม้ว่าปลัดอำเภอเนินมะปรางพยายามจะชี้แจงให้ชาวบ้านว่า การเปิดเวทีประชาคมวันนี้ ชลประทานต้องการมารับฟังความเห็นสิ่งที่ชาวบ้านต้องการพัฒนาแหล่งน้ำ ไม่เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู แต่ชาวบ้านไม่เข้ารับฟัง ในที่สุดการประชุมก็ไม่เกิดขึ้น ชาวบ้านสลายตัวกลับบ้านกันหมด
               นายโม คำคูน ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำคลองชมพู เปิดเผยว่า เหตุผลที่ชาวบ้าน ต.ชมพูไม่เข้าร่วมเวทีประชาคมวันนี้ เพราะชาวบ้านมีจุดยืนไม่เอาเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแผนก่อสร้างใน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง แม้ว่าในพื้นที่เพิ่งจะประสบภัยน้ำป่าไหลหลากท่วมหมู่บ้าน แต่เขื่อนถ้าแตกขึ้นมาจะเป็นภัยพิบัติที่มากกว่าภัยน้ำหลาก มีบทเรียนมาแล้วในประเทศลาว และชาวบ้านตำบลชมพูก็มีบทเรียนจากกรณีการสร้างโรงโม่หินในอดีต

                แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เพราะชาวบ้านไม่ไว้ใจ กลัวว่าจะมีการนำข้อมูลรายชื่อเหมือนกับโรงโม่ที่เอารายชื่อคนที่เข้าประชุมไปแปลงสารว่า คนชมพูเอาโรงโม่ หากมีการเซ็นวันนี้ หมายถึงว่าเรารับรองเราเอาเขื่อนขนาดใหญ่ เหมือนกับโรงโม่ที่ผ่านมาเราก็ต้องต่อสู้ไม่จบสิ้น เพราะเราต่อต้านเขื่อนไม่รู้กี่ปี่แล้ว ถ้าเข้าไปร่วมรับฟังและลงชื่อ จะถูกนำรายชื่อและภาพถ่าย ไปนำเสนอว่า ชาวบ้านเห็นด้วยกับการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต้นน้ำคัดค้านมาตลอด ขณะที่ชลประทานจะมารับฟังความเห็นในการพัฒนาแหล่งน้ำจากชาวบ้านนั้น ในอดีตชาวบ้านก็มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กของชาวบ้าน แต่นำเสนอไปก็ไม่ได้รับความสนใจ

                นายอภิชาต ธีราภรณ์ หน.ฝ่ายก่อสร้างที่1 สำนักงานก่อสร้างชลประทาน ขนาดใหญ่ 4 จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า การเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากชาวบ้านใน ต.ชมพูวันนี้ ไม่ใช่การมารับฟังความเห็นถึงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพูแต่อย่างใด เป็นการมารับฟังความเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ ว่าต้องการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก หรือ ประตูระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในในฤดูแล้ง เพราะรู้อยู่แล้วว่าชาวบ้านไม่ต้องการอ่างเก็บน้ำ โดยสำนักก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 4 ได้รับการประสานจากอำเภอเนินมะปรางให้มารับฟังความเห็นจากชาวบ้าน แต่วันนี้ยังไม่ทันได้เปิดเวที ชาวบ้านก็ไม่เข้าร่วมแล้ว

               นายอภิชาต เผยต่อว่า สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองชมพูนั้น แม้ว่าจะมีการศึกษาออกแบบไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการอนุมัติดำเนินการสร้างอย่างใด เวลานี้กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมมีความเห็นให้ขยับสถานที่ตั้งเขื่อน ถ้าไม่ขยับก็ต้องปรับปรุงรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 37 ข้อ ปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

                ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบ้านชมพู ต.ชมพู จะประสบภัยน้ำป่าไหลหลากจากคลองชมพูไหลท่วมหมู่บ้านเป็นประจำในหน้าฝน ปีนี้เกิดเมื่อวันที่ 30-31 สิงหาคม 2562 แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงยืนยันคัดค้านการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชลชมพู ที่กรมชลประทานได้ศึกษาออกแบบมาร่วม 20 กว่าปีแล้ว อ่างเก็บน้ำคลองชมพู ตามข้อมูลของกรมชลประทานที่เคยศึกษาและออกแบบระบุว่า โครงการอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ที่ตั้งโครงการ ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ( อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ) พิกัดโครงกา : 47 QPU 830451 ระวาง 5142 พื้นที่รับน้ำฝน 342.50 ตร. กม. ปริมาณน้ำท่า 150 ล้าน ลบ.ม./ ปี ปริมาณน้ำนองสูงสุด : 690 ลบ.ม./วินาที หัวงาน เขื่อนดินกว้าง 10 เมตร ยาว 1,100 เมตร สูง 49.50 เมตร ระบบส่งน้ำ 103,800 ไร่ (ฤดูฝน 103,800 ฤดูแล้ง 17,600) พื้นที่ชลประทานตอนบน (ก่อสร้างระบบใหม่)จำนวน 35,500 ไร่ พื้นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ จำนวน 1,800 ไร่ พื้นที่โครงการวัดตายม จำนวน 53,000 ไร่ และพื้นที่ท้ายโครงการ 13,500 ไร่ ความจุเก็บกัก 86.26 ล้าน ลบ.ม.ความจุใช้งาน 84.40 ล้าน ลบ.ม. ราคาค่าก่อสร้าง 1,302.71 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้ เขื่อนและอาคารประกอบ 655.87 ล้านบาท ระบบส่งน้ำ 400.85 ล้านบาท ระบบระบายน้ำและป้องกันอุทกภัย 245.99 ล้านบาท

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/