พิษณุโลก-สุดจะทนกับหิมะดำปลิวว่อนใส่บ้านเรือนจากการเผาไร่อ้อย
ภาพ/ข่าว:อนุชา แก้วคำมา
ชาวบ้านสองอำเภอ ทั้ง อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม ต้องทนทุกข์อยู่กับเศษขี้เถาผงเขม่าดำ ที่ปลิวว่อนมาจากการเผาไร่อ้อย เพื่อเร่งตัดอ้อยส่งโรงงาน สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องใช้เครื่องเป่าลมไล่ฉีดน้ำล้างกันแทบทุกวัน
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเนินสะอาด หมู่ 7 อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ในช่วงนี้เป็นฤดูตัดอ้อยส่งโรงงานผลิตน้ำตาลที่อยู่ในพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย เร่งเก็บเกี่ยวอ้อยส่งให้กับโรงงานน้ำตาล ทุกวัน และใช้วิธีเผาอ้อย ซึ่งคิดว่าเป็นวิธีการง่ายต่อการตัด โดยจะใช้วิธีจุดไฟเผาป่าอ้อยในช่วงเวลากลางคืน แต่ก็มีเกษตรกรบางรายได้ทำการลักลอบเผาอ้อยในช่วงเวลากลางวัน ส่งผลให้เกิดขี้เถ้าเขม่าดำ หรือ ที่เรียกว่า หิมะดำ ปลิววิ่นลอยเต็มพื้นที่ของอำเภอบางกระทุ่ม และ อำเภอใกล้เคียง สร้างความเดือดร้อน แก่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ผู้ประกอบการ้าน จำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลเปิดหีบของโรงงานอ้อย ทำให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวอ้อย โดยใช้วิธีเผาอ้อย เพื่อเก็บเกี่ยวให้ทันต่อการส่งโรงงาน ส่งผลให้เกิดเขม่าควัน หรือ หินมะดำ ปลิวตกลงมาปกคลุมไปทั้งพื้นที่เกือบทุกวัน เศษเขม่าดำ ยังลอยปลิวเต็มร้าน จนทำต้องเร่งฉีดน้ำ และทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนของตนเองเกือบทุกวัน รวมไปถึงสินค้าภายในร้านที่มีคาบเศษเขม่าของหิมะดำตกเกาะติดบนชั้นสินค้าเป็นจำนวนมาก จนตนต้องใช้เครื่องเป่าทำความสะอาดเกือบทุกวัน รวมไปถึงพื้นที่บริเวณหน้าร้านและภายในบ้านที่ต้องทำความสะอาดตลอดทุกวัน เพราะเกรงว่าจะเกิดอาการแพ้ฝุ่นละออง หรือ ผดผื่นคัน จึงต้องทำให้ตนทำความสะอาดตลอด ซึ่งตนเองก็เห็นใจ เพราะเกษตรกรก็ต้องเร่งเก็บเกี่ยว แต่อยากให้เผาเป็นเวลา
ในขณะที่ชาวบ้านบางราย กล่าว ว่า เศษเขม่าจากการเผ่าอ้อย นี้ทำให้เดือนร้อนมาก เศษดำปลิวว่อนเต็มไปหมด ทุกวันตนต้องกวาดบ้านสามถึง 4 ครั้งต่อวัน ทำอย่างไรก็ไม่สะอาด โรงงานน้ำตาลต้องอออกมาจ่ายค่าเสียหาย โดยเขม่าควัน และเศษดังกล่าวเกิดจากการลักรอบเผาอ้อยในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งทำให้เกิดความสกปรก และมลภาวะ ที่โปรยปลิวเต็มกลางถนน ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานแล้วเกือบทุกวัน แต่ถ้าหากเป็นอย่างนี้อีกนานอาจจะผลกระทบต่อระบบหายใจได้ หากชาวบ้านเจอแบบนี้นานๆ ก็อาจจะแย่มากกว่าเดิม อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล และช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/
