ราชบุรี-ชาวบ้าน..ฮือ ขับไล่ผอ.กกพ.เขต 10 ราชบุรี ไม่พอใจบริหารกองทุนไฟฟ้า
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย (เต้)
ชาวบ้าน..ฮือ ขับไล่ผอ.กกพ.เขต 10 ราชบุรี ไม่พอใจบริหารกองทุนไฟฟ้า
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 พ.ค. 62 ที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 10 ( ราชบุรี) หรือสนง.กกพ.ประจำเขต 10 ถนนเขางูสายเก่า เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ได้มีชาวบ้านจากต.หินกอง ต.ดอนแร่ ต.ห้วยไผ่ อ.เมืองราชบุรี เกือบ 200 คน รวมตัวเดินทางไปปราศรัย และยื่นหนังสือ เรื่องที่สนง.กพพ.ประจำเขต 10 ไม่อนุมัติเงินกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้ในสิ่งที่ชาวบ้านมีมติต้องการ ทำให้เกิดความเสียหาย ไม่สามารถใช้งบประมาณในแต่ละปีได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของชุมชนและตำบล เนื่องจากทั้ง 3 ตำบลอยู่ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าราชบุรี 3 บ้านหนองรักษ์ (ชื่อเดิมโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้) ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.หินกอง อ.เมืองราชบุรี พร้อมปราศรัยโจมตีการทำงานของนายคมศร พรโสภณ ผอ.ฝ่ายสนง.กกพ.ประจำเขต 10 โดยมีนายประพันธ์ บุญพริ้ง กำนันต.หินกอง นายเพชร ทับทิมทอง รองนายก อบต.หินกอง รักษาราชการแทนนายกอบต.หินกอง และผู้นำชุมชนทั้ง 3 ตำบลเป็นแกนนำ ซึ่งชาวบ้านยื่นคำขาดต้องการให้นายคมศร ย้ายจากสนง.กกพ.ประจำเขต 10 ไม่ให้มีการชี้แจงใดๆ และไม่ขอเจรจาใดๆทั้งสิ้น หากไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นจะรวมตัวกับชาวบ้านอีก 3 ตำบล ที่อยู่ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าราชบุรี 3 เหมือนกันคือ ต.เจดีย์หัก ต.เกาะพลับพลา และต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี นอกจากนี้ได้มีการติดต่อกับชาวบ้านอีก 9 ตำบล ในพื้นที่โรงไฟฟ้าราชบุรี ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด เพื่อรวมตัวมาสมทบด้วย พร้อมกับยื่นคำขาดอีกว่าจะไม่ให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าราชบุรี 3 หรือดำเนินการต่อสัญญาผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราชบุรี 3 ที่จะหมดสัญญาปี 2563ด้วย
การชุมนุมของชาวบ้านครั้งนี้ มีน.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ และนายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข ซึ่งชาวบ้านเชิญมาร่วมเป็นสักขีพยาน รับฟังปัญหาของชาวบ้าน พร้อมกับรับเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้ และมีพ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี นำกำลังตำรวจ ทหาร มาดูแลความเรียบร้อย ทั้งนี้ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้น.ส.กุลวลี เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ และยื่นหนังสือให้ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินการส่งต่อให้กับนายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรีต่อไป
น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรีเขต 1 เปิดเผยว่าเบื้องต้นถ้าวันไหนมีการเปิดประชุมสภาที่นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบาย คงต้องใช้เวทีตรงนั้นขออภิปรายเรื่องนี้ ในการที่ กกพ.จะดูแลเงินกองทุนไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชน เพราะว่าชาวบ้านที่มาวันนี้ มาเพื่อบอกว่าเกาไม่ถูกที่คัน อยากได้เรื่องนี้แต่ไม่ได้ ตรงนี้คิดว่า ทางกกพ.ต้องดูแลในเรื่องเงื่อนไขในการใช้เงินกองทุนไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์ เช่น มีการพูดคุยเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าข้างทางจากหลอดธรรมดาเป็นหลอดแอลอีดี แต่งบประมาณก็ไม่ผ่าน ซึ่งราชบุรีเป็นเมืองไฟฟ้า เมืองพลังงาน แต่คนในบ้านเองยังไม่มีความกินดีอยู่ดีในเรื่องไฟฟ้า เช่น พื้นที่ หมู่ 4 ต.หนองกลางนา อ.เมืองราชบุรี อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าพิกุลทองประมาณ 10 กิโลเมตร แต่บ้านหลังนี้ๆไฟฟ้าไม่เข้า ใช้แต่ตะเกียงจุดใช้ทุกวันนี้ ชาวบ้านไปถามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบอกว่าต้องจ่ายค่าขยายเขต 30,000 บาท ซึ่งทางกกพ.มีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ที่จะดูแลยืดหยุ่นช่วยเหลืออุปการะเขาเหล่านั้นในฐานะที่อยู่ในพื้นที่ๆเราตั้งโรงไฟฟ้า ส่วนโรงไฟฟ้าบ้านหนองรักษ์ทราบว่าจะมีการตั้งโรงไฟฟ้าเป็นกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งของเดิม 700 เมกกะวัตต์ ส่วนข้อมูลตรงนี้อยากจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งแถลงชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ว่าราชบุรีมีโรงไฟฟ้ากี่โรง กำลังการผลิตแต่ละโรงเท่าไหร่ จะหมดสัญญาเมื่อไหร่ และจะมาตั้งที่ไหนอีกเท่าไหร่ พื้นที่ต.หินกองเองชาวบ้านยังไม่รู้ว่ามีประเภท 1 แถม 1 จึงจะขออาศัยส่วนของสภาไปหารือตรงนี้
ด้านนายคมศร พรโสภณ ผอ.สนง.กกพ. ประจำเขต 10 ( ราชบุรี) กล่าวว่าจะขอทำเรื่องให้ผู้บริหารพิจารณาเรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นเรื่องของในพื้นที่ เราพูดยากเป็นเรื่องความไม่เข้าใจมันมีอยู่หลายสาเหตุ โดยเรื่องเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เป็นเรื่องของคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ซึ่งมีภาคประชาชนและหน่วยงานของรัฐ ตนเองได้รับมอบหมายเป็นเลขานุการคณะกรรมการเท่านั้น ในการพิจารณาต่างๆเป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาว่าจะอนุมัติโครงการหรือไม่อนุมัติโครงการมากกว่า เรื่องดังกล่าวเดี๋ยวรอในสิ่งที่ชี้แจงไปว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ผู้บริหารคงทราบแล้วว่ามีปัญหาตรงนี้ ส่วนย้ายหรือไม่ย้าย เป็นเรื่องของผู้บริหาร ส่วนตัวผมเป็นส่วนของงาน เป็นผอ.ที่นี่ก็ถือว่าทำดีที่สุด ทำเพื่อประชาชนทุกตำบล ส่วนเรื่องเงินที่บอกว่าได้หรือไม่ได้ไม่เคยรู้เรื่องไม่เคยรับสิ่งใดเลย ทำงานด้วยความโปร่งใส ทำงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ปีนี้ผ่านมาถึง 30 กว่าปีแล้ว ถือว่าทำงานแบบซื่อสัตย์สุจริตและยุติธรรมไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้กระแสในโลกโซเชี่ยลโดยเฉพาะในจ.ราชบุรี ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ราชบุรีอีก 2 โรง หลังจากมีรายงานข่าวระบุว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เสนอข้อสรุปแผนการสร้างโรงไฟฟ้ามั่นคงภาคตะวันตก จำนวน 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 67-68 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และเห็นควรให้ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เป็นผู้ดำเนินการทั้ง 2 โรง ในพื้นที่จ.ราชบุรี จึงทำให้ชาวบ้านที่ทราบเรื่องเริ่มวิตกกังวล แต่ยังไม่มีความชัดเจนจากทางบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าดังกล่าวทั้งจากบริษัทใหญ่ และโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ราชบุรี
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/