ราชบุรี-หน่วยงานแถลง สรุป ปารีณา รุกป่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดี

ราชบุรี-หน่วยงานแถลง สรุป ปารีณา รุกป่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤถัย(เต้)

 หน่วยงานแถลง สรุป ปารีณา รุกป่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดี

          วันที่ 24 พ.ย.62 หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นที่บริเวณฟาร์มไก่ เขาสน ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ในพื้นที่ 1,700 ไร่ และได้ทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านหลังฟาร์ม ซึ่งติดกับภูเขา โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 มานำชี้แนวเขต เนื่องจากนางสาวปารีณานั้นไม่สามารถติดต่อไป ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการเดินสำรวจพื้นที่


            จากนั้นในเวลา 17.00 น. นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร นายสมชาย เปรมพาณิชย์นุกูล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายพัฒนะ ศิริมัย ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศูนย์ประสานการปฎิบัติที่ 4 กอ.รมน. และนายนายวัฒนา มังธิสาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการแผนที่จัดสรรระบบทีดินของสปก. ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่บริเวณห้องประชุมของ อบต.รางบัว อ.จอมบึง โดยสรุปว่าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเขตของป่าไม้ ซึ่งก็พบว่าในบริเวณดังกล่าว มีการก่อสร้างฟาร์มไก่ เบื้องต้นนั้นพบว่าพื้นที่ที่มีการประกอบกิจการเขาสนฟาร์ม ประมาณ 690 ไร่ มีที่ดินในส่วนบริเวณฟาร์มไก่ เนื้อที่ ประมาณ 46 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จึงต้องทำการตรวจยึดตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 4 (1) ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และหากพบว่า พื้นที่ ดังกล่าว เป็นพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ ทางเจ้าหน้าที่ ก็จะได้ดำเนินคดี ในส่วนของ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ด้วย ต่อไปเมื่อพื้นที่นั้นถูกประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 น.ส.ปารีณาฯ ก็จะผิด พรบ.ป่าสงวนฯ มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถางป่า เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ” ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้ามื่นบาท แต่ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งสองปีถึงสิบห้าปีและปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท จากนั้นก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปแจ้งความดำเนินคดี ต่อผู้ครอบครองที่ดิน ส่วนในที่ดินที่เป็นพื้นที่ของสปก.นั้นได้มีการส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ครอบครองพื้นที่ ซึ่งก็คือนางสาวปารีณา ให้นำเอกสารมาชี้แจง โดยมีกำหนดระยะเวลา 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ และถ้าครบกำหนดแล้วผู้ที่ครอบครองที่ดินนั้นยังไม่นำเอกสารมาชี้แจง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายของสปก. ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ส่วนที่นางสาวปารีณา มีการแจ้งต่อปปช.ว่ามีการเสียภาษีดอกหญ้าในที่ดินทั้งหมด 1700 ไร่ นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามี แค่ 690 ไร่ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 1,000 ไร่ นั้นนางสาวปารีณาต้องไปชี้แจงเองว่าที่ดินนั้นอยู่บริเวณใด

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!