ศรีสะเกษ-พิธีเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง

ศรีสะเกษ-พิธีเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

พิธีเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง

         เมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านอุ่มแสง หมู่ที่ 7 ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสงจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ชุมชนบ้านอุ่มแสง เป็นกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ที่ประกาศจะยกระดับเป็นมหานครเกษตรอินทรีย์ศรีสะเกษ ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2547 เริ่มต้นมีสมาชิกรวมกลุ่มประมาณ 70 ครัวเรือน ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1,200 ครัวเรือน มีพื้นที่การผลิตมากกว่า 20,000 ไร่ ครอบคลุม 7 จังหวัดในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบพันธุ์พืชผักให้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 10 ราย จากนั้น ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเทคโนโลยีการผลิตพริกเพื่อการค้า จัดทำบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่างกลุ่มแปลงใหญ่พริกกับ บริษัท เจียไต๋ จำกัด จัดทำบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่าง YSF ศรีสะเกษ กับ ห้าง บิ๊กซี ศรีสะเกษ เยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Farmer จังหวัดศรีสะเกษ นิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร ของ Dopa เยี่ยมนิทรรศการนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ ของบริษัท สยามคูโบต้า จำกัด นิทรรศการ Fair Trade ของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทนของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ตรวจเยี่ยมการบรรจุข้าวอินทรีย์ ชมนิทรรศการยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านกระเดาอุ่มแสง และเยี่ยมชมนิทรรศการพืชเศรษฐกิจใหม่ กาแฟศรีสะเกษ โดยมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายบุญมี สุระโคตร สว.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ นำคณะข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ จ.ศรีสะเกษจาก 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ และจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือทุกจังหวัด มาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

            พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมาในครั้งนี้มาในนามของลูกอีสาน ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาให้การต้อนรับ ตนจะพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อให้คนไทยทุกคนมีความสุข หลายอย่างต้องปรับโครงสร้าง ซึ่งในการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา สามารถผลักดันได้สำเร็จเพื่อประเทศไทยได้หลายเรื่อง โดย 15 ประเทศ จะลงนามร่วมกันในปีหน้า ถือว่าเป็นการเปิดตลาดขนาดใหญ่ที่น่าพอใจ โดยขณะนี้เราได้มีการยกฐานะขึ้นเป็นผู้ให้แล้วไม่ใช่เป็นผู้ขอ เป็นระดับผู้ให้หลายโครงการที่ผ่านมามีสิทธิ์ใช้จ่ายเงินกองทุนช่วยประเทศอื่น เราเป็นประเทศที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมากที่สุดในอาเซียน ทุกคนไว้วางใจในระบบการเงินของเรา ซึ่งกองทุนสำรองระหว่างประเทศ 2 ล้านล้านดอลล่าห์สหรัฐถือว่าสูงระดับต้น ๆ ของโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยวและบริการมากพอสมควร โครงสร้างอุตสาหกรรมต้องปรับทั้งหมด มันต้องมีอุตสาหกรรมใหม่ที่ส่งเสริมในอีอีซี 12 ประเภท ของเดิมมีอยู่ 5 เท่านั้น จะต้องส่งเสริมให้เกิดทั่วประเทศ

              พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีหน้าจะเลิกใช้ถุงพลาสติคแล้วใช้ครั้งเดียวทิ้ง ต้องแก้ปัญหาขยะพลาสติค เพราะว่าพลาสติคต้องใช้เวลา 450 ปีจึงจะย่อยสลาย แต่ว่าบางอันจะย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติคขนาดเล็กในน้ำ ปลาก็กินเข้าไปแล้ว เราก็กินปลาต่อเท่ากับว่า เรากินพลาสติคเข้าไปทุกวัน ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้ ตนมาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เห็นการรำต้อนรับมี 4 เผ่าสวยงามมาก จะเผ่าอะไรก็ตามวันนี้ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด วันนี้ ส.ส. ส.ว.ต้องช่วยกัน รัฐบาลก็ต้องช่วยกัน นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม พรรคนี้คือพรรคประเทศไทย ทุกคนต้องร่วมมือกันตรงนี้ในการขับเคลื่อนทุกมิติไปให้ได้ เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องการเมือง เป็นประชาธิปไตยก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้น สิ่งที่ตนอยากจะขอพวกเราก็คือเราต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ จะเกลียดก็หยุดกันไว้ก่อนบ้าง จะได้มีเวลาคิดอะไรใหม่ ๆ เพื่อคนไทยทุกคน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!