สระบุรี-ผอ.หลั่งน้ำตาชี้แจงกรณีให้เด็กตากแดดรอต้อนรับวันเดินทางมารับตำแหน่ง

สระบุรี-ผอ.หลั่งน้ำตาชี้แจงกรณีให้เด็กตากแดดรอต้อนรับวันเดินทางมารับตำแหน่ง

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

ผอ.หลั่งน้ำตาชี้แจงกรณีให้เด็กตากแดดรอต้อนรับวันเดินทางมารับตำแหน่ง

                สายวันนี้ ( 16 พ.ย.2562) ที่ห้องประชุม(เกียรติยศ) โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม อ.เมือง จ.สระบุรี นางนงลักษณ์ เรือนทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานมัธยมศึกษาตอนปลาย ปฏิบัติหน้าที่ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดร.งามพิศ ลวากร ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขตที่ 4 (ปทุมธานี) พร้อมคณะลงพื้นที่ และได้เชิญคณะผู้บริหารฯคณะกรรมการสถานศึกษาฯคณะกรรมการนักเรียน และผู้เกี่ยวข้องของโรงเรียนทั้งสองแห่ง คือ โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม และโรงเรียนมัธยมแก่งคอย เข้าร่วมประชุมชี้แจงในกรณีที่
               มีสื่อต่างๆเผยแพร่โดยเฉพาะทางโชเชี่ยล ว่า นักเรียนโรงเรียนสระบุรีวิทยาคมต้องนั่งตากแดดรอต้อนรับ นายณัฐนันท์ ดนูพิทักษ์ ในวันเดินทางมารับตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม คนใหม่ และในขณะเดียวกันได้มีการนำภาพในวันที่ โรงเรียนมัธยมแก่งคอย จัดพิธีแสดงมุฑิตาจิตขอบคุณนายณัฐนันท์ ในวันอำลาตำแหน่งฯ มารับตำแหน่งใหม่ที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม พร้อมทั้งนำเพท(เก่า) ขณะนายณัฐนันท์ ถูกกล่าวหาว่าใช้อารมณ์ และขับรถยนต์เกือบชนนักเรียนหน้าเสาธง ที่โรงเรียนมัธยมแก่งคอย เหตุเกิดเมื่อกลางปี 2561 ซึ่งเรื่องราวได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ไม่พบการกระทำความผิด เรื่องได้จบลงไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังถูกนำมาปะติดปะต่อกับเหตุการณ์(เด็กนั่งตากแดดรอรับ)ในวันเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จนเป็นข่าวอื้อฉาวดังกล่าวขึ้น โดยในเบื้องต้น ผู้บริหารระดับสูงจาก สพฐ. และเขตพื้นที่การศึกษา ไม่อนุญาตให้นายณัฐนันท์ (ผู้ถูกกล่าวหา) และสื่อมวลชน อยู่ในที่ประชุม เพราะต้องการรับฟังข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจาก ผู้บริหารฯ กรรมการสถานศึกษา กรรมการนักเรียน ของทั้งสองโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งใช้เวลากว่า 1.30 ชั่วโมง จึงได้เชิญนายณัฐนันท์ เข้าไปชี้แจงในที่ประชุมอีกราว 40 นาที โดยมีสื่อแขนงต่างๆเฝ้ารอรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
               จากนั้นจึงได้เชิญผู้สื่อข่าว เข้ารับฟังการแถลงข่าว โดยนางนงลักษณ์ เรือนทอง ผู้แทน สพฐ. และ ดร.งามพิศ ลวากร ผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษา เขต 4 กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว สพฐ.มิได้นิ่งนอนใจ จึงได้รับลงพื้นที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม เพื่อพบนักเรียนด้วยความห่วงใย พร้อมทั้งเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อเท็จจริง หลังประมวลเหตุการณ์แล้ว ทำให้ทราบว่าตัวท่าน ผอ.เอง (นายณัฐนันท์) ไม่ได้รับรู้หรือสั่งการให้ คณะครู นักเรียนได้กระทำการดังกล่าวแต่อย่างใด โดยที่โรงเรียนมัธยมแก่งคอย คณะครู นักเรียน ได้ร่วมกันจัดพิธีแสดงมุฑิตาจิตขอบคุณ ที่นายณัฐนันท์ มาดำรงตำแหน่ง ผอ.ที่โรงเรียนมัธยมแก่งคอยนานถึง 4 ปี สร้างคุณงามความดีพัฒนาการศึกษาให้กับโรงเรียนมากมาย เพราะฉะนั้นก่อนที่ ผอ.จะย้ายจึงได้จัดให้มีพิธีดังกล่าวขึ้น
              ส่วนเหตุการณ์ที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม นั้นคณะครู กรรมการสถานศึกษา รวมทั้งคณะกรรมการนักเรียน มีความเห็นตรงกันว่า นายณัฐนันท์ ดนูพิทักษ์ (ผอ.คนใหม่) เคยเป็นศิษย์เก่าเรียนที่ ส.บ.วตั้งแต่มัธยมต้น ถึงมัธยมปลายจนจบการศึกษา และไต่เต้าเจริญรุ่งเรืองในชีวิตราชการจนได้เป็น ผู้อำนวยการฯ และ ได้ย้อนกลับมาเป็นผู้บริหารของโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ถือเป็นความภาคภูมิใจ จึงได้จัดพิธีต้อนรับดังกล่าวขึ้น ซึ่งก็ทราบว่า เมื่อครั้งนายเฉลียว ไตรพิพัฒน์ ผอ.คนเก่า ที่พึ่งเกษียณอายุไป ก็เป็นศิษย์เก่า ที่นี่ และก็ได้เคย จัดพิธีต้อนรับในลักษณะเดียวกันนี้ในวันเดินทางมารับตำแหน่งใหม่เช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นประเพณีของคนไทย แต่มุมมองทางสังคมอาจมองคนละด้านเพราะฉะนั้น ต่อไปนี้การจะสิ่งใดขอให้อยู่ในความเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาเล่าเรียนของนักเรียน ถือเป็นสิ่งสำคัญ และต้องระมัดระวัง

                ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายธนบดี ประธานคณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายธนบดี ชี้แจงว่า ในวันที่ท่าน ผอ.เดินทางมารับตำแหน่ง( 12 พ.ย.62) ตนซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนักเรียนที่ตั้งแถวรอต้อนรับ และเป็นผู้กล่าวต้อนรับท่าน ผอ.ด้วยตนเอง เมื่อท่าน ผอ.ลงรถ เดินมาพวกตนแสดงความยินดีและกล่าวต้อนรับ ท่าน ผอ.ได้กล่าวตอบ ไม่อยากให้น้องๆนักเรียน เรียก ท่าน ผอ. แต่อยากให้เรียกเป็น รุ่นพี่ ที่เคยเรียนในสถาบันเดียวกันนี้มาก่อน ตนได้ฟังแล้ว รู้สึกอบอุ่น ส่วนในเรื่องที่ว่า “นักเรียนนั่งตากแดด”รอนานนั้น ตนยืนยันได้ว่า ในช่วงนั้นเป็นตอนเช้า และนักเรียนบางส่วนนั่งในร่ม บ้างกลางแดดบ้าง ตนก็ได้บอกคณะกรรมการ(นักเรียน) ให้ไปบอกให้หลบแดดเข้าไปอยู่ในร่มได้ แต่นักเรียนส่วนใหญ่บอกว่าไม่เป็นไร และโดยข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อ ผอ.เดินทางมาถึงผ่านการต้อนรับแล้วได้เดินทางไปไหว้พระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนแล้ว นำพระพุทธรูปเข้ายังห้องทำงาน แล้วก็เลยไปยังหอประชุมฯ เพื่อพบปะ ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้มารอต้อนรับอยู่ก่อนแล้วโดยใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น มิได้เป็นไปตามข่าวแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตนจึงใคร่ขอความกรุณาผู้ที่นำเรื่องราวมาเชื่อมโยงกันระหว่าง 2 โรงเรียนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงโรงเรียนด้วยขอให้ระมัดระวังด้วย


                    ด้านนายณัฐนันท์ ดนูพิทักษ์ ผอ.โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ผู้ตกเป็นข่าวฉาว เปิดเผยกับสื่อมวลชนในที่ประชุม ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสองแห่งตนไม่ทราบมาก่อนเลย และตนยังไม่ได้เข้าทำงานเลยจะไปสั่งการได้อย่างไร ตนตั้งใจกลับมาตอบแทนแผ่นดินโรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ที่เคยประสิทธิประสาทความรู้ให้แก่ตนจนได้ดีมาจวบจนปัจจุบัน กับสิ่งที่เกิดขึ้นหากสังคมมองว่าไม่เหมาะสมตนในฐานะผู้บริหารก็จะพยายามปรับปรุง และจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามตนจะนำความรู้ความสามารถเข้ามาพัฒนาต่อยอดองศ์วามรู้ความสามารถของนักเรียน ซึ่งก็มีความรู้ความสามารถกันดีอยู่แล้ว โรงเรียนสระบุรีวิทยาคมเป็นโรงเรียนใหญ่ชั้นนำของจังหวัด อยู่ในระดับต้นๆ หนึ่งในร้อยของประเทศ ตนจะพยามทำให้ดีที่สุด “รุ่นพี่จะดูแลรุ่นน้อง” อย่างอบอุ่นให้มากที่สุด เมื่อถึงตอนนี้ นายณัฐนันท์ มีอาการสอึกในคำพูด และหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อสื่อโชเชี่ยล ที่นำภาพมาประติดปะต่อสร้างความเสื่อมเสียทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง จะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำไปเผยแพร่หรือไม่ นายณัฐนันท์ แจ้งว่า ขอคิดดูก่อนขณะนี้ตนมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ แจ้งความดำเนินคดี หรือ อโหสิกรรม ผู้สื่อข่าวย้ำว่า ท่านจะเลือกทางไหน นายณัฐนันท์ โบกมือขอหยุด พร้อมกล่าวว่า คิดดูก่อน.

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!