สระบุรี-โรงปูนซิเมนต์นยักษ์ใหญ่ 2 บริษัท ประสานมือมอบอาคารโรงปูนรักษ์ชุมชน แห่งที่ 8
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
โรงปูนซิเมนต์นยักษ์ใหญ่ 2 บริษัท ประสานมือมอบอาคารโรงปูนรักษ์ชุมชน แห่งที่ 8 (อาคารโดมสนามกีฬา) ให้กับโรงเรียนบ้านป่าวังกวาง ต.แก่งคอย
วันที่ 13 ธันวาคม 2562 นาย พีระพล ตัณฑโอภาส ปลัดจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน พิธีรับส่งมอบอาคารโรงปูนรักษ์ชุมชน แห่งที่ 8 (อาคารโดมสนามกีฬา) ให้กับโรงเรียนบ้านป่าวังกวาง ณ โรงเรียนบ้านป่าวังกวาง ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยมีหน่วยราชการ ประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และนักเรียน ร่วมภายในงานครั้งนี้ นายพีระพล ได้กล่าวว่า ผมมีความยินดีที่ได้มาเป็นประธาน รับมอบอาคารโรงปูนรักษ์ชุมชน แห่งที่ 8 ในครั้งนี้ ที่มีภาคเอกชน โดยเฉพาะโรงงานผู้ผลิตปูนซิเมนต์ที่ให้ความสำคัญ ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชน กิจกรรมด้านการศึกษา เป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะภาคเอกชน ซึ่งมีกำลังทุนที่ช่วยกันพัฒนาสังคมได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าภาคเอกชนได้เล็งเห็นความสำคัญของชุมชน โดยเฉพาะด้านการศึกษา จะส่งผลถึงไปการสร้างลากฐานของการพัฒนาคน และจะได้ไปพัฒนาชาติ ให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
มี นาย วิสัน ปริทัศน์ไพศาล ผู้จัดการอาวุโส สายงาน plant logistic บริษัทปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นาย ศุภกิจ ภู่เจริญศิลป์ บจก.ปูนซิเมนต์ไทย(แก่งคอย) จำกัด ในกลุ่มบริษัทเอสซีจี และสมาคมอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ไทย ร่วมใจจัดตั้ง โครงการโรงปูนรักษ์ชุมชน หรือ Cement partnership ขึ้น จากความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัท ที่มีเจตนารมณ์ขอความร่วมมือ
โดยมีสมาคมอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ไทย เป็นแกนกลางการประสานในครั้งนี้ เพื่อก่อสร้างอาคารโรงปูนซิเมนต์รักษ์ชุมชน แห่งที่ 8 จึงได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของโรงเรียนในพื้นที่รอบโรงงานของทั้งสองบริษัท และได้มีมติเห็นชอบให้จัดสร้างอาคารเพื่อใช้ประโยชน์ เพื่อการเรียนการสอน และใช้เป็นอาคารอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน และชุมชนรอบข้าง ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของทางโรงเรียนและชุมชน ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่ทำให้การก่อสร้างอาคารโรงปูนรักษ์ชุมชน แห่งที่ 8 อาคารโดมสนามกีฬา โรงเรียนบ้านป่าวังกวาง ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัทฯ ที่สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อมุ่งมั่นในการพัฒนาให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมต้นแบบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในจังหวัดสระบุรี พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชน และมุ่งหวังให้อุสาหกรรม และชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และยังมีแนวทางดำเนินการควบคุมกิจกรรมหลัก 3 ด้าน
1.ด้านอุตสาหกรรมที่สะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2.ด้านการดูแลเอาใจใส่ชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
3.ด้านสื่อสาร
สำหรับการดูแลเอาใจใส่ชุมชนนั้นเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถือเป็นเรื่องสำคัญ และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งทางด้านการศึกษาของเยาวชน ซึ่งถือว่า เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป ภายในงานยังมีการแสดงต่างๆของเด็กนักเรียนให้ชม
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/