สระแก้ว-การจัดการขยะมูลฝอยของสระแก้ว ในยุค 4.0
ภาพ/ข่าว:สวาท เกตุงาม
การจัดการขยะมูลฝอยของสระแก้ว ในยุค 4.0 ชุมชนแต่ละแห่งควรกำจัดขยะของตนเอง ไม่ควรเคลื่อนย้ายขยะไปทิ้งที่อื่น จะเป็นภาระขยะเป็นภูเขา
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2562 ที่ศาลาการเปรียญ วัดท่าเกวียน ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 2 พลังประชารัฐ เป็นประธานเปิดโครงการเสวนาวิชาการ การจัดการขยะมูลฝอยของสระแก้ว ในยุค 4.0 พร้อมด้วย นายณัฏฐพงษ์ พัฒนรัฐ นายอำเภอวัฒนานคร น.ส.รัตนา โตเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเกวียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนทุกหมู่ ในตำบลท่าเกวียน กว่า 500 คน เข้าร่วมเสวนา โดยมี ดร.จักรพันธ์ นาน่วม และ ดร.สมนึก จงมิวสิน เป็นวิทยากรบรรยาย และการเสวนาวิชาการในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมต้องการการจัดขยะ ในท้องที่ของใครของมัน ไม่ต้องการขยะจากที่อื่น และป้องกันการลักลอบนำขยะจากที่อื่นมาทิ้งในจังหวัดสระแก้วอีกด้วย
ด้านนางตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 2 พลังประชารัฐ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก กรมควบคุมมลพิษ เรื่องแนวทางการบริหารจัดการของเสียอันตราย ชุมชน สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการกำจัดขยะมูลฝอย พ.ศ.2560 แจ้งให้ อปท.ทุกแห่ง กำกับสถานประกอบการที่เป็นอันตราย และอำเภอทุกอำเภอ กำกับดูแล ร้านรับซื้อของเก่า อุตสาหกรรมดูแลโรงงานประเภท 105 และ 106 และให้อำเภอทุกอำเภอแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อช่วยกันเฝ้าระวัง การลักลอบทิ้งขยะ อันตราย กรณีพบลักลอบทิ้งขยะในพื้นที่ อีกทั้ง ในตำบลท่าเกวียน ยังเป็นพื้นที่ ที่มีการดำเนินการ นำขยะมูลฝอยมาทิ้งกองไว้ เพื่อรอการกำจัด และอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนในพื้นที่และใกล้เคียงในอนาคต
ส่วน น.ส.รัตนา โตเจริญ นายก อบต.ท่าเกวียน เผยว่า อบต.ท่าเกวียน พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ร่วมกับกับเครือข่ายสมัชชาด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อท้องถิ่นสระแก้ว ประกอบด้วยภาครัฐ ภาควิชาการท้องถิ่น ท้องที่ภาคประชาสังคม และประชาชนที่สนใจ จึงได้จัดให้มีเวทีเสวนาเชิงวิชาการ “การจัดการขยะมูลฝอย ในยุคไทยแลนด์ 4.0” ที่ศาลาการเปรียญ วัดท่าเกวียน ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อเสริมสร้างแนวคิด และแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธีและยั่งยืน สร้างความร่วมมือระหว่างภาคี เครือข่าย ในการดำเนินงานด้านการจัดการขยะมูลฝอย ทั้งในและขยะที่มาจากจังหวัดอื่น ๆ และเป็นการผลักดัน การจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน และภาคส่วนต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง
ด้าน ดร.จักรพันธ์ นาน่วม สาขาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยบูรพาวิทยาเขตสระแก้ว กล่าวว่า ในจังหวัดสระแก้ว ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะมี 4 แห่ง ได้แก่ อำเภอวัฒนานคร อรัญประเทศ วังน้ำเย็น และ เมืองสระแก้ว และที่ประสบปัญหา คือ น้ำเสียที่เกิดจากขยะ กลิ่นเหม็นน้ำใช้ไม่ได้ เป็นปัญหาเชื่อมโยง ควรมีหน่วยงานรับผิดชอบ สำหรับที่อำเภออรัญประเทศ ขยะเข้ามาจากโรงเกลือ บ่อขยะนี้สูงหลายเมตรน้ำเสียจากกองขยะไหลลงคลองพรมโหด บางปีร้องเรียน น้ำเสียรบกวนเพื่อนบ้าน น้ำเสียไหลมาจาก 2 ฝั่ง สุดท้ายคนก่อ คือพวกเราคนในพื้นที่ ในจังหวัดสระแก้ว ปีหนึ่ง มีขยะ 120,000 ตัน กำจัดได้จริงเพียง 32 ตัน ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ วิกฤติขยะอยู่ในอันดับ 9 ของประเทศ ส่วนการศึกษาอยู่อันดับสุดท้าย ขยะทีมี่อยู่ในขณะนี้ การกำจัดได้ทั้งหมดต้องใช้เวลาอีก 5 ปีจึงจะหมดโดยไม่เพิ่มขยะใหม่
ขยะในจังหวัดสระแก้ว เป็นขยะสัญจร เดิมกำจัดที่ระยอง ต่อมากำจัดที่ปราจีน และสุดท้ายมาลงที่สระแก้ว เนื่องจาก สระแก้ว ที่ดินยังถูกกว่าที่อื่น ที่จริงขยะอินทรีย์ กว่า 70 % สามรารถกำจัดเองภายในบ้านได้ ไม่ต้องไปถึงบ่อขยะ ฝังดินสลายเป็นปุ๋ย แต่ปัจจุบันพบว่า คนมักง่าย ขยะทุกชนิดไม่ว่าขยะอุตสาหกรรม ขยะอีเล็กทรอนิกส์ ขยะพิษชุมชนหลอดไฟ ถ่านไฟฉาย สเปรย์ ผ้าเช็ดสี ทิ้งที่เดียวกันศักยภาพการแยกขยะของท้องถิ่นมีน้อย เอาไปทิ้งรวมกัน กระทั่งเป็นภูเขา จังหวัดสระแก้ว มีการลักลอบนำขยะจากที่อื่นมาทิ้งด้วย
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/