สระแก้ว-อึ้ง ขออนุญาตประกอบการขยะที่ ระยอง แต่มาโผล่สระแก้ว

ข่าว/ภาพ:สวาท เกตุงาม

        ชาวสระแก้ว อึ้ง ขออนุญาตประกอบการขยะ ที่ จังหวัดระยอง แต่มาโผล่ที่สระแก้ว โดนแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เจ้าของนั่งสะอื้น บอกหมดเนื้อหมดตัว วอนขอคัดแยกขยะเสร็จแล้ว จะขนกลับที่เดิมทั้งหมด

          กรณีที่ พบขยะอุตสาหกรรมอันตราย บริเวณเชิงเทือกเขาซับพลู-เขาภูหีบ ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์ ป่าโซน ซี บ้านหนองแก ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นขยะอุตสาหกรรมอันตราย และเศษชิ้นส่วนรถยนต์ที่ถูกบดย่อยจำนวนมาก ถูกนำมากองทั่วบริเวณพื้นที่กว่า 20 ไร่ นั้น
           เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม 2562 นายสมศักดิ์ กรึงไกร หัวหน้าฝ่ายกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม นายมานพ บุญเจียม ผู้อำนวยการควบคุมมลพิษ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น ร.ต.อ.นิเวศน์ ปิ่นเวหา รอง สว.ปราบปราม กก.2 บก.ปทส. นายอนันต์ งอนชัยภูมิ นายก ต.หลังใน นายทองสุข รัตนรัตน์ ผญบ.หนองแก นางสาวมาลัย ปาระบับ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หนองแก และเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.19 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อื่นๆ กว่า 50 คน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ที่บริเวณพบขยะอุตสาหกรรมดังกล่าวอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ ควบคุมจากกรมควบคุมมลพิษ ได้สุ่มเก็บตัวอย่างขยะ จำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปตรวจสอบ ว่ามีสิ่งเจือปนอะไรบ้าง
           ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบ นายบุญยืน น้อยเจริญ ผู้ประกอบการ ขยะอุตสาหกรรม และนายสาธิต รูปทอง ผู้ดูแลสถานประกอบการขยะอุตสาหกรรม ดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อมูล และข้อเท็จจริงว่า ขยะที่นำมา กองอยู่ที่บริเวณเชิงเขา บ้านหนองแก มีที่มาที่ไปอย่างไร และได้คำตอบจากนาย บุญยืน น้อยเจริญ ว่า ตน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผู้ประกอบการ มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ชื่อบริษัท อริสา รีไซเคิล จำกัด สถานที่ ตั้ง โรงงาน อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ 1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ที่นำมากองไว้ที่บ้านหนองแก ประมาณ 300 ตัน ซื้อตันละ 2,000 บาท เพื่อนำมาแยก ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ เอาไปขาย ส่วนอื่นก็นำไปเป็นเชื้อเพลิง ที่นำมาที่สระแก้ว เนื่องจากที่ระยองไม่มีที่เก็บ เมื่อวาน โดนปรับไปแล้ว 3 แสนกว่า เฉพาะค่าของกว่า 6 แสนบาท ค่าจ้างรถพ่วงละ 15,000 บาท แต่ผมขอคัดขยะตรงนี้ให้หมดแล้วผมจะขนออกให้ผมขอแค่นั้น ผมหมดตัวแล้วจริงๆ และหลังจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แล้ว นายบุญยืน น้อยเจริญ ถึงกับนั่งก้มหน้าสะอื้น บอกผมหมดเนื้อหมดตัวแล้ว
             ทางด้านนางประเทือง ประวัติ 64 ปี ชาวบ้านหนองแก กล่าวว่า ถ้าชาวบ้านไม่ออกมาพูดอะไรเงียบเฉย มันมาร้องเรียนทีหลังมันอาจจะสายเกินไปหรือแก้ไขอะไรไม่ได้เลย เหมือนบางที่มีกองขยะเวลาไปขอไม่อนุญาตบางคนก็บอกว่าให้ออกใบอนุญาตก่อน ถ้าเราไปร้องทีหลังก็ไม่เป็นผล ที่ออกมาพูดเพราะเราเป็นคนเดือดร้อน ถ้าขยะตรงนี้ไม่มีพิษคุณทำธุรกิจอะไรก็ทำไป แต่ตรงนี้ถ้ามันมีพิษ คือเรา เราเป็นต้นน้ำ เขาสูงกว่าเรามาก ถ้าน้ำล้นจะล้นไปใส่คลอง ตรงนี้เป็นที่สูงเป็นตีนเขา เป็นต้นน้ำลงไปหาเราทั้งหมด ทุกคนทำการเกษตร ก็เป็นน้ำไปจากตรงนี้ทั้งนั้น ในระยะสั้นๆ คงไม่เกิดผลอะไร อีกอีก 5ปี 10 ปีข้างหน้า เราก็ไม่อยากให้เกิด ในระยะยาวๆ ลูกเล็กเด็กแดง หากได้รับสารตรงนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตรงนี้พึ่งใครไม่ได้ ก็จะขอพึ่งลุงตู่ ช่วยเหลือด้วย
              ส่วน นายสมศักดิ์ กรึงไกร หัวหน้าฝ่ายกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้รับผิดชอบบอกว่านำมาจากโรงงานที่จังหวัดชลบุรีโดยบริษัทโรงงาน 105 คือ โรงงานคัดแยกขยะอุตสาหกรรมมาคัดแยกเอาพลาสติกเอาอะลูมิเนียมทองแดงทุกอย่างแยกเอาไปขาย โรงงานที่เป็นขยะอุตสาหกรรม ก่อนจะนำออกนอกโรงงานต้องขออนุญาต กรมโรงงานก่อน โรงงานที่เป็นต้นกำเนิดของเสีย จะต้องขออนุญาตก่อนว่าจะเอาของเหล่านี้ออกนอกโรงงานและต้องแจ้งว่า เอาไปที่ไหน และจากการตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นโรงงานรีไซเคิล 105 อนุญาตที่โรงงานอุตสาหกรรม เมื่อมีใบอนุญาตเรียบร้อย ทางกรมโรงงานจึงจะอนุญาตมาที่โรงงานรีไซเคิลมาคัดแยก และต้องคัดแยกในโรงงานเท่านั้น และตรวจสอบแล้ว โรงงาน ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยองแต่เจ้าของอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ดังนั้นขยะเหล่านี้ต้องไปอยู่ที่ระยอง ไม่ใช่อยู่ที่จังหวัดสระแก้ว ขยะที่พบตรงนี้ เป็นขยะรวมทุกอย่าง ก็เป็นขยะปนเปื้อนอันตราย เป็นขยะอันตราย เพราะซากรถยนต์จะมีทั้งน้ำมันปนเปื้อน แผ่นโฟมก็อันตราย มีทั้งตะกั่วปรอทก็อันตราย เมื่อฝนตกจะลงน้ำใต้ดินได้ สำหรับพื้นที่สระแก้วตรงนี้ถือว่าผู้ประกอบการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 2 แสน จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เริ่มต้นเราจะรายงานทางชลบุรี ว่าขยะมาอยู่ที่นี่ ผู้ประกอบการบริษัทอะไรให้ตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตให้นำออกถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบต่อที่ระยองว่า ที่ระยองทำออกมาแล้ว ทำไมถึงออกมาที่สระแก้ว ถือว่ากระทำความผิดนำของออกมาจากโรงงานคัดแยกที่ระยองมาอยู่สระแก้ว ต้องดำเนินคดีทางระยองที่นำออกมาที่สระแก้ว ขยะเหล่านี้อันดับแรกปิดไว้ก่อน สำหรับวัตถุอันตรายขั้นตอนต้องให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น อายัดของไว้ก่อนแล้วทางอุตสาหกรรมจะแจ้งทางชลบุรีและระยอง ให้ดำเนินการขนขยะเหล่านี้เข้าไปอยู่ในที่ ถูกต้อง คือบริษัทที่ชลบุรีหรือระยอง ต้องขนกลับทั้งหมด ส่วนค่าจ้างขน เจ้าของไปว่ากันเอง สำหรับระยะเวลาต้องสอบถามทาง สภ.วังน้ำเย็นอีกที ว่าจะให้ระยะเวลากี่วัน หลังจากนี้ก็จะเข้าไปแจ้งความที่วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
              ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางไป ที่บริเวณขยะ อุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ ตรวจสอบ หากมีการนำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/